วันที่ 6 ก.ค. 2565 คือวันแรกของการบังคับใช้ กฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. 2565 หรือกฎการขึ้นราคาค่าบริการไปรษณีย์ ซึ่งการปรับขึ้นครั้งนี้กระทบกับพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้บริการไปรษณีย์ไทยเพราะถ้าส่งสินค้าน้ำหนักไม่ถึง 500 กรัม จะถูกคิดค่าบริการ 30 บาท จากเดิมไม่รวมลงทะเบียนอยู่ที่ 3-15 บาท
ไปรษณีย์ไทยปรับขึ้นราคาส่งสินค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ล่าสุดวันที่ 6 ก.ค. 2565 กฎกระทรวงดังกล่าวมีการประกาศบังคับใช้แล้ว มีเนื้อหาสำคัญคือการประกาศขึ้นราคาของบริการไปรษณีย์ไทยต่าง ๆ เนื่อง กฎกระทรวงเดิมที่ใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 มีผลใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานาน และทางองค์กร ไม่ได้ขอปรับอัตราราคาค่าบริการไปรษณีย์พื้นฐานในประเทศ แต่ต้นทุนเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับการปรับขึ้นในปี 2565 มี จดหมายประเภทซอง และมีการเพิ่ม จดหมายประเภทหีบห่อ เป็นประเภทการส่งใหม่ รายละเอียดดังนี้
ก่อนหน้านี้การส่งจดหมายไม่ว่าสิ่งที่อยู่ภายในจดหมายจะเป็นกระดาษ หรือเป็นสิ่งของใด ๆ ที่มีความนูนออกมา จะถูกจัดอยู่ในจดหมายประเภทซองทั้งหมด แต่ ไปรษณีย์ไทย ต้องการปรับเป็นรูปแบบตามสหภาพสากลไปรษณีย์จึงมีความจะเป็นต้องแยกการจัดส่งเป็น 2 รูปแบบคือ ประเภทซอง และประเภทหีบห่อ (กล่อง)
การปรับขึ้นราคาครั้งนี้จะกระทบกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือผู้ต้องการส่งพัสดุที่มีน้ำหนักไม่ถึง 500 กรัม เช่นก่อนกฎกระทรวงใหม่บังคับใช้ ถ้าต้องการส่งต่างหูน้ำหนัก 19 กรัม จะมีค่าบริการ 3 บาท แต่ปัจจุบันถ้าจะส่งต่างหูน้ำหนัก 19 กรัม จะมีค่าบริการเริ่มต้น 30 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ราคาใหม่ดังรูปข้างต้นยังไม่มีการรวมค่าบริการลงทะเบียน หรือ EMS ทำให้ผู้ใช้บริการต้องคำนวณค่าใช้จ่ายใหม่ โดยเฉพาะต้นทุนของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันคู่แข่งในตลาดทั้ง Kerry Express, Flash Express และอื่น ๆ ต่างมีการปรับราคาขึ้น
ไปรษณีย์ไทย ชี้แจงว่า ได้ให้บริการไปรษณีย์พื้นฐานในประเทศโดยทั่วถึงแก่ประชาชนในอัตราเริ่มต้นที่ 3 บาท ทำให้องค์กรมีภาระเชิงสังคมต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลปี 2554 – 2563 เป็นจำนวนสูงถึง 18,380 ล้านบาท (เฉลี่ยปีละ 1,838 ล้านบาทและมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2563 มีภาระการให้บริการเชิงสังคม 3,072 ล้านบาท)
อ้างอิง // รัฐบาลไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา