เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดขนส่งในไทย “ไปรษณีย์ไทย” เตรียมปรับลดค่าส่งพัสดุ EMS ลงอีก เริ่มต้น 5-115 บาท มีผลวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันดุเดือด
ด้วยการแข่งขันในตลาดโลจิสติกส์แข่งขันรุนแรงมากขึ้น มีผู้เล่นต่างชาติทยอยทำตลาด และเปิดบริการใหม่ๆ ทำให้แย่งแชร์ในตลาดจากพี่ใหย่อย่างไปรษณีย์ไทยอย่างแน่นอน ยิ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยก็มีดราม่าเรื่องการส่งสินค้าอยู่ไม่น้อย ยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นเข้าไปใหญ่
ทำให้ในปีนี้ได้เห็นการปรับปรุงบริการต่างๆ มากมาย เพิ่มนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างหน่วยรถมอเตอร์ไซต์ส่งพัสดุก็ได้ลงทุนออกรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับการส่งพัสดุสินค้าออนไลน์มากขึ้น ตามเทรนด์การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
ล่าสุดไปรษณีย์ไทยได้ประกาศปรับอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ หรือ EMS ในประเทศ สำหรับสิ่งของฝากส่งที่มีพิกัดน้ำหนักตั้งแต่ 3 – 20 กิโลกรัม โดยราคาที่ปรับลดเริ่มต้นที่ 5 บาท และลดสูงสุดที่ 115 บาท โดยมีผลวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป
ดร.พรชัย ฐีระเวช รองประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า
“ไปรษณีย์ไทย ได้ประกาศปรับอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ในประเทศ เพื่อตอกย้ำการเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจขนส่ง เป็นไปตามนโยบายไปรษณีย์ไทย 4.0 ต้องสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ รักษาฐานลูกค้า สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ลดต้นทุนการส่งสินค้า และช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการฝากส่ง ตลอดจนสร้างความคึกคักแก่เศรษฐกิจโดยรวมประเทศ”
ซึ่งบริการขนส่งด่วนในประเทศ มีการแข่งขันสูงและมีการเติบโตโดยเฉลี่ย 18% ใน 2 – 3 ปีนี้ ซึ่งบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ของไปรษณีย์ไทยเป็นบริการหลักที่สร้างรายได้และมีปริมาณงานสูง และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไปรษณีย์ไทยจึงจำเป็นจะต้องรักษาและเพิ่มลูกค้าใหม่
สรุป
เรียกว่ามีการปรับตัวทุกหนทางเลยก็ว่าได้ ทั้งนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา พร้อมทั้งปรับลดค่าบริการจัดส่ง เพื่อต่อสู้ในตลาด ซึ่งจริงๆ แล้วไปรษณีย์ไทยยังมีข้อได้เปรียบอยู่มาก มีจุดบริการครอบคลุมทั่วประเทศ และเข้าถึงบ้านลูกค้าได้ทุกซอกทุกมุม การปรับเปลี่ยนบริการถือเป็นสัญญาณอันดีที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา