Volvo Car Thailand เปิดตัว ‘Volvo ES90’ รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในเอเชีย
มาพร้อมดีไซน์ fastback สไตล์สแกนดิเนเวียน ที่เรียบหรูและทรงพลัง ติดตั้งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ให้ระยะทางขับขี่สูงสุดกว่า 755 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Volvo ในการเดินหน้าสู่การเป็น ‘Fully Electric Car Company’ หรือบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมยกระดับมาตรฐานรถยนต์พรีเมียมไฟฟ้าในไทยทั้งด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน
Volvo ES90 ผลิตบนแพลตฟอร์มใหม่ SPA2 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ‘Superset Tech Stack’ รวมฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน รองรับการอัปเดตฟังก์ชันผ่านระบบ OTA ได้ตลอดอายุการใช้งาน
ภายในติดตั้งชิปประมวลผลคู่ NVIDIA DRIVE AGX Orin ที่ยกระดับสมรรถนะความปลอดภัยให้สูงขึ้น ผ่านการทำงานร่วมกับเซนเซอร์รอบคัน 7 กล้อง, 5 เรดาร์, 12 อัลตราโซนิก และ LiDAR จาก Luminar Technologies
ดีไซน์ภายนอกสะท้อนความเรียบหรูในแบบสแกนดิเนเวียน เส้นหลังคาโค้งลาดแบบ fastback ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก ทำให้ค่าต้านลมเหลือเพียง 0.25 Cd
ขณะที่ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุไม้จริง และวัสดุรีไซเคิล เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในการผลิต
ด้าน ‘คริส เวลส์’ กรรมการผู้จัดการ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทยและมาเลเซีย เล่าให้ฟังว่า ES90 สะท้อนถึงจุดยืนของแบรนด์ในการมอบความหรูหราแบบสแกนดิเนเวียนควบคู่กับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
“Volvo ES90 คือการรวมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ากับ ‘ความหรูหรา’ และ ‘ความปลอดภัย’ ในแบบฉบับ Volvo เป็นก้าวสำคัญของเราสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าอย่างแท้จริง”
ย้ำชัดยังคงเป้าหมาย Fully Electric
‘คริส’ ย้ำว่า แม้บริษัทจะยังคงเป้าหมายสู่การเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ Volvo จะทำตลาดทั้ง BEV และ PHEV ควบคู่กัน เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ
“ตอนนี้สัดส่วนยอดขายของเราคือ BEV ราว 80% และ PHEV ประมาณ 20% เราจะเดินคู่กันไปจนกว่าความต้องการของลูกค้าจะเปลี่ยนไปเต็มที่ วันหนึ่งถ้าทุกคนต้องการแค่ BEV เราก็พร้อมเปลี่ยนทันที”
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ไทยมีการตอบรับรถไฟฟ้าสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค เช่น มาเลเซีย ซึ่งยังต้องใช้เวลาในการปรับตัว ทำให้กลยุทธ์ของ Volvo ต้อง “ยืดหยุ่นตามตลาด”
ไม่เล่นเกมลดราคา เพราะทำลายความยั่งยืนของตลาด
ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถ EV โดยเฉพาะจากค่ายจีน ‘คริส’ ยืนยันว่า Volvo จะไม่เข้าร่วมสงครามราคาที่อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของลูกค้า
“เราจะไม่ลดราคาเพื่อเร่งยอดขาย เพราะสุดท้ายมันจะกระทบมูลค่ารถมือสอง และภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระยะยาว”
แทนที่จะใช้วิธีลดราคา Volvo เลือกเพิ่มมูลค่าผ่านฟีเจอร์ใหม่ๆ และบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ามากขึ้น โดยไม่ต้องลดราคาตัวรถ
มองเศรษฐกิจไทยยังทรงตัว แต่โอกาสยังมี
‘คริส’ มองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีศักยภาพ แม้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อในตลาดรถพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่ยังมีหลายภาคส่วนที่ขับเคลื่อนได้ดี
“เศรษฐกิจไทยไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพียงแต่เราต้องช่วยกันกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียน เพื่อให้กำลังซื้อกลับมาอย่างยั่งยืน”
การเปิดตัว ES90 ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการยืนยันจุดยืนของ Volvo ว่าการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ต้องอาศัยความสมดุลระหว่างเทคโนโลยี กลยุทธ์ และความเข้าใจตลาด
Volvo จึงไม่เร่งก้าวเร็วเกินไป ไม่ลดราคาทำลายตลาด และไม่ละเลยพฤติกรรมผู้บริโภคในภูมิภาค เพราะในโลกที่ทุกค่ายวิ่งเข้าสู่ยุค EV การรักษาสมดุลระหว่าง ‘อุดมคติ’ กับ ‘ความเป็นจริงทางธุรกิจ’ คือสิ่งที่ทำให้ Volvo เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ที่มา: งานแถลงข่าวเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Volvo ES90
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา