นักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติมองไทย อาจจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภาวะเศรษฐกิจแย่ที่สุดในภูมิภาคนี้ การจัดการโควิดสำเร็จแต่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เพียงเล็กน้อย เศรษฐกิจไทยหดตัวมากที่สุดในรอบ 22 ปีนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน 1998
ไตรมาสสองของปี 2020 นี้ ไทยมี GDP -12.2% แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่ Reuters คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะหดตัว หรือมีจีดีพี ติดลบ 13.3%
เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก แต่นักเที่ยงเที่ยวก็ไม่สามาารถเดินทางมาได้หลังโควิด-19 ระบาดทั่วโลก Alex Holmes นักเศรษฐศาสตร์เอเชียแห่ง Capital Economics ให้ความเห็นว่า แม้ไทยจะจัดการโควิด-19 ได้ค่อนข้างเร็ว แต่การพึ่งพาอย่างมหาศาลของไทยในภาคการท่องเที่ยว ฉุดให้เศรษฐกิจไทยเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วง Holmes กล่าวว่า ไทยไม่มีคนติดเชื้อติดต่อกันเกิน 80 วันแล้ว แต่เขาก็มองว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะหดตัวอยู่ที่ -9%
การประท้วงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องใหม่ ความไม่แน่นอนทางการเมืองไม่ใช่เรื่องแปลกหน้าของไทย ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการรัฐประหารโดยทหารเข้ามายึดอำนาจมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติสมัยใหม่ การชุมนุมครั้งล่าสุดถือเป็นการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัฐประหารปี 2014 เป็นต้นมา
การเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออกและการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นประเด็นต้องห้าม ไม่ให้พูดถึงมาเนิ่นนานเพราะอาจเกิดความเสี่ยงที่นำไปสู่การจับกุมคุมขัง ได้ถูกนำมารื้อใหม่ กลายเป็นข้อเรียกร้องให้สามารถนำมาถกเถียงอธิปรายได้อย่างโปร่งใส กว้างขวาง
Barnabas Gan นักเศรษฐศาสตร์แห่ง UOB คาดว่า เศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแออยู่ เศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะหดตัวอยู่ที่ -7.5% เพราะตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักอย่างการท่องเที่ยวและการค้าค่อนข้างแย่ลงในช่วงครึ่งปีแรก และน่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนหมดปีนี้ ตัวเลขดังกล่าวปรับลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ UOB คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวอยู่ที่ -5.4%
ขณะที่ Nalin Chutchotitham นักเศรษฐศาสตร์จาก Citi มองว่า การประท้วงทางการเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ คือการเรียกร้องให้ทหารลดอิทธิพลทางการเมืองลง ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นำไปสู่การเลือกตั้งใหม่และการปฏิรูปทางสังคม ความกังวลต่างๆ นี้ อาจนำไปสู่การเปิดพรมแดนเพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ช้าลงซึ่งก็เกี่ยวพันกับการฟื้นตัวของธุรกิจต่างๆ ด้วย เธอคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะหดตัวอยู่ที่ -8.6%
ที่มา – CNBC, UOB, Capital Economics
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา