จากการประชุมคณะรัฐมนตรีต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุขเพิ่มเติม โดย ครม. มีมติให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การบริจาคที่ยกเว้นภาษีเงินได้เพิ่มเติม ดังนี้
ครม. มีมติรับทราบและอนุมัติ ดังนี้ (1) รับทราบการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคด้านสาธารณสุขตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ตามที่คลังเสนอ (2) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์การบริจาคด้านสาธารณสุข เป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยให้หักลดหย่อน หรือหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่า ของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรให้แก่มูลนิธิรวม 3 แห่ง
- มูลนิธิชัยพัฒนา
- มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
- มูลนิธิรามาธิบดี ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ สยามบรมราชกุมารี
และยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรสแตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า หรือการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่มูลนิธิทั้ง 3 แห่งดังกล่าว ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 ธันาคม พ.ศ. 2567
ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
- บุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนเป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค เมื่อรวมคำนวณกับเงินได้ที่กำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวน 2 เท่าของเงินที่ได้จ่ายตามกรณีที่กำหนดไว้แล้ว ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนนั้น
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่บริจาค ไม่ว่าจะได้จ่ายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน แต่เมื่อรวมคำนวณกับรายจ่ายที่กำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายแล้ว ต้องไม่เกิน 10% ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา
ที่มา – รัฐบาลไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา