ฟิลลิปมองหุ้นไทยวิ่งในกรอบแคบ 1,520-1,535 จุด ชี้การเมืองไม่ชัดเจน-หวั่นปัจจัยต่างประเทศ

บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index ในวันนี้ (10 ส.ค.) ว่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways เพราะความไม่ชัดเจนทางการเมืองยังมีจึงมองยังกดดันภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้นไทยต่อ โดยวันนี้คาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,535 จุด 

ทั้งนี้ หลังพรรคเพื่อไทยแถลงรวมเสียง 9 พรรค ได้ 238 เสียงแล้วซึ่งยังยืนยันว่าได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง (250) แต่ในปัจจุบันยังได้ไม่ถึง ทำให้ยังต้องติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งประเด็นว่าจะมีการจับขั้วกับหนึ่งในพรรคขั้วอานาจเดิมหรือไม่เพื่อให้ได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ส. และส.ว.ให้เพียงพอต่อการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ทางฝ่ายมองทางเลือกดังกล่าวยังสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่กาเลือกพรรคเพื่อไทยบางส่วน ทำให้อาจเป็นไปได้ยากที่จะเดินหน้าจับขั้วกับพรรคขั้วอำนาจเดิม 

ทั้งนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแตะ 84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ท่ามกลางการให้ข้อมูลจาก EIA ว่าการผลิตของสหรัฐในสัปดาห์ก่อนแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ที่ 12.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ยังไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ภายในประเทศสะท้อนผ่าน สต๊อกนำ้มันเบนซินสหรัฐในช่วงเดียวกันที่ออกมาชะลอตัวต่ำกว่าที่คาดขณะที่การลดกาลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ร่วมกันผลักดันราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวขึ้นต่อมองจะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำวันนี้ คาดจะเป็นกลุ่มที่นำตลาด

ขณะที่ปัจจัยภายนอกตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ (คาดการณ์ไว้ที่ เพิ่มขึ้น 3.3%YoY) กลับมาเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตาหลังตลาดสหรัฐเผชิญความกดดันจากทั้งการปรับลดเครดิตเรตติ้งและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจึงเป็นที่น่ากังวลว่าหากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวดีนักธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯ หรือไม่ 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่น่าติดตามอื่นๆได้แก่ การประกาศดัชนี MSCI และตัวเลข PPI สหรัฐ ในวันพรุ่งนี้ (11 ส.ค.)

อย่างไรก็ตามมองว่าปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นยังมี 3 ข้อ

  1. สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี 2566 สู่ระดับ 1.9% เพิ่มขึ้นจากระดับคาดการณ์เดิมที่ 1.5%
  2. กระทรวงพาณิชย์เผยอินเดียระงับส่งออกข้าว เป็นโอกาสทองของตลาดข้าวไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก แม้จะเผชิญกับภาวะปริมาณน้าฝนน้อยในปีนี้
  3. พรรคการเมืองเล็กระบุว่า รัฐสภาเตรียมโหวตนายกฯ ในวันที่ 18ส.ค. เสริมความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล

ขณะที่โดยสรุปแล้วทางฝ่ายมองว่ามีปัจจัยลบ 3 ข้อที่ต้องติดตามได้แก่

  1. ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่าการส่งออกของไทยแย่ เศรษฐกิจจีนแผ่ว ส่งผลกดดัน GDP ไทยปีนี้ จ่อปรับใหม่ต่ำกว่า 3.6% โดยต้องเกาะติดข้อมูลสภาพัฒน์ในวันที่ 21 ส.ค.นี้
  2. แหล่งข่าวระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ทำเนียบขาวเตรียมประกาศรายละเอียดของแผนการจำกัดการลงทุนในเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนบางประเภทในจีน และกำหนดให้ต้องแจ้งรัฐบาลเกี่ยวกับการลงทุนอื่น ๆ เพื่อขัดขวางการนำเทคโนโลยีสหรัฐไปพัฒนากองทัพจีน
  3. สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานเติบโตช้าที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง

ที่มา – บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย)

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา