ตามติด “ไทยสเตนเลสสตีล” กับการลงทุน 50 ล้านบาท ปั้น “นกนางนวล-จรวด” เกาะเทรนด์สิ่งแวดล้อม

การนำพลังงานทดแทน หรือ Renewable Energy เริ่มพบเห็นในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้งาน เพราะนอกจะรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย

การติดตั้งแผงโซลาร์ของไทยสเตนเลสสตีล

แม้ต้นทุนจะสูง แต่เป็นการลงทุนที่คุ้ม

ปกติแล้วการลงทุนเรื่องพลังงานทดแทนนั้น โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงองค์กรต่างๆ ต้องลงทุนด้วยตนเอง เพราะแม้รัฐจะช่วยกระตุ้นเรื่องนี้ผ่านการสื่อสารข้อมูล แต่กลับไม่ได้มีสิทธิประโยชน์อะไรมาจูงใจมกนัก ทำให้การลงทุนพลังงานทดแทนในฝั่งเอกชนนั้นมีแรงจูงใจเพียงไม่กี่อย่างคือ ได้มาตรฐานสากล ISO หรือไม่ก็ต้องการลงทุนเพื่อก้าวสู่อนาคตสีเขียว

อรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องครัวภายใต้แบรนด์ Seagull (นกนางนวล) และจรวด เล่าให้ฟังว่า การลงทุนด้านพลังงานทดแทนทำมาระยะหนึ่งแล้ว หรือตั้งแต่ปี 2556 เช่นการใช้รถขนของในโรงงานที่ใช้พลังงานไฟฟ้า แทนรถที่ใช้พลังงานน้ำมัน

อรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด

“แม้จะต้องลงทุนด้วยตนเอง แต่ในมุมอนาคตนั้นมันค่อนข้างคุ้มค่า เพราะการลงทุนเรื่องพลังงานทดแทนช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้ยั่งยืน และส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเรา ทั้งชุมชน และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็ถูกรักษาให้อยู่ได้ด้วย ทีสำคัญบริษัทก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาวด้วย มันก็เหมือนเป็นแรงจูงใจอีกทางที่ให้เราเปลี่ยนแปลง”

50 ล้าน กับการเริ่มต้นโซลาร์เซลล์

ทั้งนี้ “ไทยสเตนเลสสตีล” ได้ลงทุนกว่า 50 ล้านบาท เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บริเวณหลังขาของโรงงานที่อ.บ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ขนาด 3,571 ตร.ม. สามารถผลิตไฟฟ้าได้กว่า 1.1 ล้านหน่วย หรือช่วยลดค่าไฟฟ้ากว่า 5 ล้านบาท/ปี จากที่ปกติมีค่าใช้จ่ายตัวนี้ราว 20 ล้านบาท/ปี

ตัวแบรนด์ Seagull มีการทำตลาดออนไลน์มากขึ้น นอกจากการเดินหน้าใช้พลังงานสีเขียว

ส่วนการลงทุนพลังงานทดแทนนั้น ไม่ได้ส่งผลให้กำลังการผลิตเครื่องครัว และสินค้าอื่นๆ ของบริษัท เพราะยังคงประสิทธิภาพไว้เช่นเดิม เพื่อตอบโจทย์ตลาดนี้ที่ยังมีความต้องการอยู่ โดยเฉพาะกับเครื่องครัวประเภท Non-Stick ที่กระแสยังดีอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระแสรักสุขภาพ แม้ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้นก็ตาม

5 เดือนหลังกำลังซื้อมีปัญหา น้ำท่วมกระทบเต็ม

สำหรับมุมมองเรื่องกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง “อรุณ” บอกว่า ภาพรวมยังดูซบเซา เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วมที่ภาคอีสานเขามาเสริมภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวนัก ทำให้ยอดขายบริษัทยังไม่เติบโตมาก หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 1-2% ปิดรายได้ที่ 1,500 ล้านบาท

สรุป

การเดินหน้าลงทุนพลังงานทดแทนถือเป็นเรื่องที่หลายองค์กรต้องทำ เพราะมันเป็นอีกวิธีที่ทำให้องค์กรสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พลังงานที่ใช่แล้วหมดไปจะไม่เหลือให้ใช้อีกต่อไป แต่ถ้าหน่วยงานภาครัฐมีการให้สนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เช่นให้สิทธิประโยชน์ คล้ายกับกรณีของรถยนต์ไฟฟ้า ก็น่าจะทำให้หลายองค์กรเล็งเห็นเรื่องนี้มากขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา