ปลดล็อกแล้ว! สนช. ลงมติรับหลักการ “กัญชาใช้ในทางการแพทย์ได้”

ข่าวนี้อาจเป็นข่าวดีเมื่อ สนช. ลงมติให้กัญชาสามารถใช้ในทางการแพทย์ได้ และอาจสามารถปลดล็อกอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยได้

ภาพจาก Pixabay

ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สนช. ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ วาระแรก ตามที่สมาชิก สนช. 44 คน เข้าชื่อเสนอเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ได้ปลดล็อกให้ กัญชาสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ โดยร่างนี้ได้ผ่านมติของ สนช. ด้วยคะแนนอย่างท่วมท้น 145 เสียง และจะมีการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน

อ้างอิงจากเว็บไซต์บีบีซีไทย ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ. โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และให้ตราเป็น พ.ร.บ.ฉบับใหม่ซึ่งมีรายละเอียดครอบคลุมถึงการใช้กัญชา ซึ่งถูกจัดอยู่ในยาเสพติดประเภท 5 ซึ่งมีความร้ายแรงน้อยกว่าประเภท 1 ได้แก่ เฮโรอีน ยาบ้า ฯลฯ นอกจากนี้ใน พ.ร.บ. ยังมีการตัดยาเสพติดประเภท 5 ออกจากบทบัญญัติห้ามผลิต จําหน่าย นําเข้า ส่งออก และการมีไว้ในครอบครอง

อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าประชาชนทั่วไปจะสามารถปลูกกัญชาไว้ครอบครอง หรือไว้เสพได้ เนื่องจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ กำหนดให้ หมอ หรือคนไข้ สามารถพกพาในจำนวนจำกัด รวมไปถึงยังให้กระทรวงสาธารณสุข สามารถกำหนดและดูแล พ.ร.บ.ในช่วง 5 ปีนี้ หลังจากนี้ค่อยกลับมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการปรับแก้ตรงไหน

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาในต่างประเทศอย่างเช่น ออสเตรเลีย เริ่มการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างถูกกฎหมายในปี 2016 นอกจากนี้ประเทศอย่างแคนาดาก็เริ่มมีการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ เป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอุรุกวัย

Grand View Research ได้ประเมินว่ามูลค่าของตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ อาจมีมูลค่าสูงถึง 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025

ที่มาบีบีซีไทย, หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ