นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึง 4 เรื่องสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยผ่านการจัดทำงบประมาณของปี 2565 หลังจากนี้ และได้กล่าวว่างบประมาณของไทยมีอยู่อย่างจำกัด ต้องใช้เงินดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงการทำงบประมาณประจำปี 2565 เพื่อที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติให้ไวที่สุด และเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น งบประมาณรายจ่ายที่มีอยู่อย่างจำกัดจะต้องใช้ให้มีประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่า สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะเดียวกันงบประมาณในปี 2565 ของไทยจะขาดดุลมากกว่างบประมาณปี 2564 อยู่ 91,037.5 ล้านบาท
ในการจัดทำงบประมาณของไทยในปีงบประมาณ 2565 นายกรัฐมนตรีได้กล่าวโดยให้ความเชื่อมั่นว่า งบประมาณขาดดุลนั้นอยู่ในจำนวนที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อวินัยและความยั่งยืนทางการคลัง และงบที่ขาดดุลจะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้ปกติตามศักยภาพต่อไป
เรื่องสำคัญของงบประมาณในปี 2565 ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ ได้แก่
- การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ เช่น ส่งเสริมการจ้างงาน การช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพ SME ฯลฯ
- การยกระดับขีดความสามารถของประเทศเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เช่น การส่งเสริมอุตสาหกรรมและบริการทางการแพทย์ครบวงจร การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และเน้นคุณภาพ การยกระดับภาคการเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง การปรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ฯลฯ
- การพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคนให้เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เช่น การยกระดับ ปรับทักษะ และส่งเสริมการเรียนรู้ การขยายและพัฒนาระบบหลักประกันทางสังคม การเสริมสร้างความมั่นคงทางสุขภาพ
- การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ การปรับปรุงกฎหมายและส่งเสริมภาครัฐดิจิทัล การพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม การเสริมสร้างความมั่นคงและการบริหารจัดการความเสี่ยง การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่ายและภาคีการพัฒนา
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่มีอยู่จำกัด จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายในการใช้งบประมาณดังกล่าวให้มีความคุ้มค่า โดยงบประมาณรายจ่ายประจำในปี 2565 นี้อยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา 185,962.5 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณปี 2565 ที่รัฐบาลตั้งงบประมาณไว้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 3.5% อัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ 1.2% และจะมีผลบังคับใช้หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ โดยงบประมาณของปี 2564 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา