แนวโน้มการแต่งงานข้ามเชื้อชาติเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติธรรมดาในโลกยุคโลกาภิวัตน์ แบรนด์หญิงไทย(อีสาน) เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ได้รับความนิยม กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ส่งหลักสูตรอบรมฟรีมาช่วย เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์เมื่อออกไปสู่โลกความเป็นจริง
หลักสูตรอบรมหญิงไทย เมื่อมีสามีต่างชาติ โดยกระทรวงพม.
จากแนวโน้มหญิงไทยเป็นสะใภ้ต่างชาติมากขึ้น ข้อมูลของรัฐบาลเมื่อปี พ.ศ. 2547 (นี่เป็นข้อมูลที่ใหม่ที่สุดแล้วจากกระทรวง) ระบุว่า มีผู้หญิงมากกว่า 15,000 คนจากภาคอีสานได้แต่งงานกับผู้ชายต่างชาติ ที่น่าสนใจคือส่งเงินกลับมาหาครอบครัว คิดรวมแล้วเป็นเงินกว่า 122 ล้านบาทต่อเดือน
ระบบราชการไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มองเห็นแนวโน้มนี้ที่ว่า “สังคมไทยยอมรับการแต่งงานข้ามเชื้อชาติมากขึ้น” แต่ก็มาพร้อมกับการมองเห็นปัญหาว่า หญิงไทยที่ไปแต่งงานกับชายชาวต่างชาติอาจจะยังรับมือกับความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมและเชื้อชาติได้ไม่ดีนัก หรือมากไปกว่านั้นอาจถูกหลอกลวงหรือตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ได้
กระทรวงเลยส่งหลักสูตรอบรมฟรีมาให้กับหญิงไทยทุกคน เริ่มต้นพัฒนาหลักสูตรจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น หลักๆ จะสอนว่าถ้าไปประเทศนั้น ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร แล้วจะต้องเตรียมพร้อมแค่ไหน
กระทรวงยืนยันว่า หลักสูตรนี้จะช่วยการลดความเสี่ยงให้กับผู้หญิง โดยเฉพาะในกรณีที่อาจจะถูกหลอกลวงหรือตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ เพราะหลักสูตรนี้ครอบคลุมไปถึงเรื่องทางกฎหมาย สิทธิทางกฎหมาย การขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทย ไล่ไปจนถึงการปรับตัวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างในแต่ละประเทศ
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) บอกไว้เลยว่า “(หลักสูตรนี้) จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงสำหรับการใช้ชีวิตคู่ ในสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย โดยการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงไทยให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมตาม กระแสโลกาภิวัฒน์ เพื่อให้สามารถดูแลตนเองและช่วยเหลือคนไทยด้วยกันได้อย่างเข้มแข็ง”
หญิงไทยคนหนึ่งที่เคยเป็นอดีตผู้จัดการสปา ตอนนี้ได้แต่งงานกับชายชาวเยอรมัน บอกว่า “หลักสูตรอบรมนี้เป็นประโยชน์กับผู้หญิงไทยมาก เพราะผู้หญิงไทยที่มาจากภาคอีสานส่วนใหญ่ เป็นคนอ่อนโยนและว่านอนสอนง่ายอยู่แล้ว หลักสูตรนี้จะสอนให้พวกเธอเคารพตนเองและวัฒนธรรมในที่ที่จะไปได้อย่างดี”
นอกจากนั้น สามีของหญิงไทยคนนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “สำหรับผู้หญิงหลายคน การได้ไปมีชีวิตในตะวันตกมันเหมือนการได้ไปอยู่ในเทพนิยาย แต่ในความเป็นจริง มันอาจจะเหงาและโดดเดี่ยวก็ได้ ที่ต้องย้ายไปอยู่ในเมืองเล็กๆ” เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่ตัวหญิงไทย แต่ผู้ชายต่างชาติเองถ้าไม่ปรับตัวเข้าหากัน ปัญหาก็จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกมากมาย
อันที่จริงแล้ว ชื่อเต็มของคอร์สอบรมนี้ มีชื่อที่ตั้งไว้แบบสวยงามว่า “แบบจำลองคลินิกให้คำปรึกษาสำหรับหญิงไทยในสังคมพหุวัฒนธรรม”
แต่สิ่งที่สงสัยคือ ไม่แน่ใจว่า ถ้าผู้ชายไทยที่อยากแต่งงานกับผู้หญิงต่างชาติ หรือผู้ชายไทยกับผู้ชายต่างชาติ หรือผู้หญิงไทยกับผู้หญิงต่างชาติ จะเข้าข่ายให้ไปขอคำปรึกษาจากกระทรวงนี้ได้หรือไม่?
อ้างอิง – Straits Times, กระทรวง พม.
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา