ไทย–เดนมาร์ค เปิดตัวนมกลุ่มแลคโตส ฟรีสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่แพ้น้ำตาลแลคโตส หวังกระตุ้นให้คนไทยบริโภคนมมากขึ้น ตอบรับกับสังคมผู้สูงอายุที่มีมากขึ้นในไทยด้วย
คนไทยนิยมนมแลคโตสฟรีมากขึ้น
ในปัจจุบันพบว่าคนไทยมีจำนวนไม่น้อยเลยที่มีภาวะการย่อยแลคโตสผิดปกติ ทำให้มีปัญหากับการดื่มนม บางคนก็บอกว่าตนเองแพ้นม เมื่อทานแล้วเกิดอาการท้องเสีย หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ ทำให้อัตราการดื่มนมของคนไทยน้อยกว่าประเทศอื่นค่อนข้างมาก
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เริ่มมีนมในกลุ่มแลคโตส ฟรี หรือนมปราศจากน้ำตาลแลคโตส ที่ผ่านประบวนการย่อยด้วยเอนไซม์แล็กเทสทำให้น้ำตาลแลคโตสเปลี่ยนรูปเป็นน้ำตาลโมเลกุลที่เล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึม และย่อยง่ายขึ้น ไม่มีการแพ้
ที่ผ่านมามี 2 แบรนด์ในตลาด ได้แก่ mMilk และ Meiji แต่นมกลุ่มนี้ยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นทางเลือกที่สำคัญให้กับผู้บริโภคกลุ่มนี้ ในปีนี้ “ไทย–เดนมาร์ค” จึงขอท้าชิงในตลาดอีกแบรนด์ หวังเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคเช่นเดียวกัน
ความสำคัญของนมแลคโตส ฟรีของไทย–เดนมาร์คนั้นต้องการเจาะกลุ่มคนสูงอายุเป็นกลุ่มแรก เพราะเมืองไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และพบว่าผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องกระดูกกันมากขึ้นเพราะไม่ได้ดื่มนมอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการสร้างการรับรู้ให้ดื่มนมมากขึ้น
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) บอกว่า
“ปกติอ.ส.ค.มี KPI ว่าจะต้องมีสินค้าใหม่ออกทุกๆ ปี สินค้าตัวนี้ก็ใช้เวลาพัฒนา 1 ปี มองเห็นว่าเมืองไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีคนสูงวัยมากขึ้น จะเห็นว่าคนสูงวัยในต่างประเทศแข็งแรงเพราะดื่มนมเยอะ แต่คนไทยมีการหยุดดื่มนมในช่วงวัยหนุ่มสาวทำให้กระดูกไม่แข็งแรง ต้องการสร้างแรงดึงดูดให้มาดื่มนมมากขึ้น สร้างโอกาสให้คนที่แพ้แลคโตสได้ดื่มนมได้ปกติ”
อุดปัญหาทานนมไม่ต่อเนื่อง
อีกปัญหาหนึ่งของการทำตลาดนมก็คือ การรับรู้ของคนไทยในการดื่มนมที่มองว่าดื่มแค่ช่วงวัยเด็ก พอโตขึ้นจนถึงอายุประมาณ 20-22 ปีก็เลิกดื่มนมกันแล้ว ทำให้การดื่มนมขาดช่วง จนเกิดปัญหาสุขภาพตามมา รวมถึงเกิดปัญหาการย่อยน้ำตาลแลคโตสด้วย
จากผลสำรวจอัตราการบริโภคนมของคนไทยมีเพียง 18 ลิตรต่อคนต่อปีเท่านั้น เมือ่เทียบกับประเทศอื่นพบว่ายังน้อยกว่าหลายเท่าตัว ในประเทศญี่ปุ่นมีการบริโภค 80 ลิตรต่อคนต่อปี มาเลเซีย 60 ลิตรต่อคนต่อปี และสหรัฐอเมริกา 100 ลิตรต่อคนต่อปี
ความท้าทายของไทย–เดนมาร์คจึงต้อง Educate ตลาดและทำให้นมเป็นสินค้าที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเมื่อกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องการดื่มนมมีสินค้าที่เหมาะกับร่างกายก็สามารถกระตุ้นตลาดให้เติบโตได้
การที่ไทย–เดนมาร์คเข้ามาเป็นแบรนด์ที่ 3 ในตลาดแลคโตส ฟรี มองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะยังมีผู้บริโภคที่ต้องการสินค้ากลุ่มนี้อีกมาก และไทย–เดนมาร์คก็ทำราคาให้เข้าถึงง่าย ถูกกว่าแบรนด์อื่น 20-30%
สรุป
ปัญหาเรื่องการดื่มนมของคนไทยได้รับการพูดคุยกันมากขึ้น เกิดขึ้นทั้งกับวัยเด็ก และผู้ใหญ่ การที่ตลาดตื่นตัวต่อปัญหานี้ และมีนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ ออกมารองรับความต้องการในตลาด จะช่วยทำให้ตลาดเติบโตได้อีกมาก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา