มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่าภาคการส่งออกของไทยปีนี้จะถดถอยถึง -9.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญมาจากผลกระทบของ COVID-19 ที่ยังส่งผลต่อประเทศคู่ค้าของไทย ส่งผลทำให้ส่งออกได้ลดลง
ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ว่า การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จะทรุดตัวลงมากกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ขณะเดียวกันจากความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วัคซีนในการรักษานั้นเป็นไปได้เร็วที่สุดอาจเกิดขึ้นปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ทำให้มีโอกาสที่ภาคการส่งออกของไทยอาจถดถอยได้มากสุดถึง -20%
นอกจากนี้ ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศฯ คาดว่ามีมูลค่าการส่งออกครึ่งหลังของปี 2563 จะมีมูลค่า 108,401 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะหดตัวอยู่ราวๆ -12% ถึง -19.8% ภายใต้สมมติฐานที่ว่าค่าเงินบาทของไทยอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบ 41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้ปี 2020 คาดว่าส่งออกไทยจะถดถอยราวๆ -9.6%
ปัจจัยเสี่ยงของภาคการส่งออกของไทย ได้แก่
- เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะหดตัว ความต้องการนำเข้าสินค้าของประเทศคู่ค้าลดลง
- ประเด็น การค้า เทคโนโลยี ค่าเงิน สิทธิมนุษยชน
- ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำ
- สถานการณ์ COVID-19 ยังคงยืดเยื้อ และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
ขณะที่ปัจจัยบวกของภาคการส่งออกไทยที่ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศฯ มองไว้คือ การผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆ และรวมไปถึงค่าเงินบาทนั้นอ่อนค่าลง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า รายงานตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้นถดถอยที่ -23.17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้ครึ่งปีแรกของไทยนั้นการส่งออกถดถอยที่ -7.09% ขณะที่ดุลการค้าครึ่งปีแรกของไทยอยู่ที่ 10,701 ล้านเหรียญสหรัฐ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา