ครม. อนุมัติงบเงินกู้ให้คลังกว่า 5.4 หมื่นล้าน: บัตรสวัสดิการรัฐ ยิ่งใช้ยิ่งได้ คนละครึ่งเฟส 3

ครม. อนุมัติงบเงินกู้ให้กระทรวงการคลังรวม 54,506 ล้านบาท ช่วย 4 โครงการเพื่อส่งเสริมมาตรการลดค่าครองชีพ มีทั้งบัตรสวัสดิการรัฐ, ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ, คนละครึ่งเฟส 3 และยิ่งใช้ ยิ่งได้

สำหรับงบประมาณ 4 โครงการที่ ครม. อนุมัติ ดังนี้

โครงการเพิ่มกำลังซื้อแก่ผู้มีบัตรสวัสิดการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 งบ 8,122.3764 ล้านบาท ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีก 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2564 รวม 600 บาทต่อคน ให้แก่ผู้มีบัตรจำนวนไม่เกิน 13,537,294 คน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 500 บาทต่อคนต่อเดือนช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2564

โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ งบ 1,383.8814 ล้านบาท ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 รวมเป็น 500 บาทต่อคนและรวมเป็น 1,800 บาท ครอบคลุมกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง จำนวนไม่เกิน 2,306,469 คน

งบประมาณโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 งบ 42,000 ล้านบาท ประชาชนได้รับสิทธิสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่และสินค้าและบริการทั่วไป รวมทั้งซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่เข้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่สามผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food delivery platform) 50% ไม่เกิน 150 บาท ต่อคนต่อวัน จำนวน 1,500 บาทต่อคน สนับสนุนเพิ่มเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม รวมทั้งสิ้น 4,500 บาทต่อคน สำหรับประชาชนทั่วไป

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ภาพจากทำเนียบรัฐบาล

งบโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ 3,000 ล้านบาท สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่มีบัตรสวัสดิการรัฐ ไม่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อแก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ไม่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จำนวนไม่เกิน 1 ล้านสิทธิ โดยปรับเพิ่มหลักเกณฑ์คำนวณการให้สิทธิสนับสนุน e-voucher เพิ่มวงเงินสนับสนุนจากเดิมไม่เกิน 7,000 บาทเป็น 10,000 บาทต่อคนเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 ดังนี้

  • สำหรับใช้จ่ายตั้งแต่ 1 กรกฎาคมถึง 31 ตุลาคม 2564 คำนวณวิธีเดิม
  • สำหรับใช้จ่าย 1 ถึง 30 พฤศจิกายน 2564
  • ผู้ที่ได้รับสิทธิมียอดใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณ e-voucher ไม่เกิน 6,000 บาท ณ 31 ตุลาคม 2564 จะได้รับสิทธิ ดังนี้
    • สำหรับยอดใช้จ่ายจริง 1-40,000 บาท ได้รับ e-voucer 10% ของยอดจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน
    • ยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001-80,000 บาท ได้รับ e-voucher 15% ของยอดจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 6,000 บาทต่อคน
    • สำหรับผู้ได้รับสิทธิที่มียอดใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณ e-voucher เต็มจำนวน 60,000 บาท ณ 31 ตุลาคม 2564 มีสิทธิได้รับ e-voucher จำนวน 7,000 บาทเรียบร้อยแล้วจะมีสิทธิได้รับ e-voucher เพิ่มเติม หากมีการใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ระหว่าง 1-30 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับสิทธิ e-voucher 15% ของยอดใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่ไม่เกิน 3 ,000 บาท
  • เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 มาแล้ว: ครม. เห็นชอบขยายระยะเวลาโครงการถึง 28 ก.พ. 65 นี้ 

ที่มา – รัฐบาลไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา