บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ประกาศผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 161,067 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 28,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,259.9% จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 252 ล้านบาท (กำไรสุทธิปี 2566 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 12.87 บาท ในขณะที่ปี 2565 ขาดทุนต่อหุ้น 0.12 บาท)
ผลประกอบการปี 2566 ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ระบุว่ากำไรจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดครั้งเดียว 24,600 ล้านบาท ซึ่งมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 3,956 ล้านบาท และกำไรจากการขายทรัพย์สิน 469 ล้านบาท นอกจากนี้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงิน 1,066 ล้านบาท
ที่มา THAI
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว และความต้องการเดินทางของผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 4 ของปี บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 45,170 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.4%
อีกทั้ง ในปี 2566 นี้มีค่าใช้จ่ายไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 120,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% จากปี 2565 จากค่าใช้จ่ายผันแปรในส่วนค่าน้ำมันที่มีสัดส่วน 39.5% ของค่าใช้จ่ายรวมที่สูงขึ้นจากปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการบริการในกิจกรรมขนส่งจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (EBIT) เป็นเงิน 40,211 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน จำนวน 32,414 ล้านบาท และมี EBITDA จากการดำเนินงานหลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่าเครื่องบิน 42,875 ล้านบาท ดีกว่าประมาณการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ปัจจุบันการบินไทย และบริษัทย่อยมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินรวม 70 ลำ โดยมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 12.2 ชม. มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 40.9% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) 65.4% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 79.7% สูงกว่าปีก่อนหน้า และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวม 13.76 ล้านคน เพิ่มขึ้น 52.7% จากปีก่อนหน้า ด้านการขนส่งสินค้ามีปริมาณการผลิตด้านพัสดุภัณฑ์ (ADTK) สูงกว่าปีก่อน 40.9% ปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (RFTK) สูงกว่าปีก่อน 15.4% อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (FreightLoad Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 51.7% ต่ำกว่าปีก่อน
โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีการดำเนินการที่สำคัญตามแผนฟื้นฟู ดังนี้
การดำเนินการตามแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบินและขยายเส้นทางบิน เพื่อรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ
- รับมอบเครื่องบิน A350-900 5 ลำ เพื่อเพิ่มเที่ยวบินไปเมืองสำคัญ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เป็นต้น
- กลับมาให้บริการในเส้นทางปักกิ่ง เฉิงตู รวมถึงเพิ่มความเที่ยวบินในเส้นทางฮ่องกง โอซากา
- เปิดเส้นทางบินใหม่บินตรงสู่อิสตันบูล สาธารณรัฐทูร์เคีย ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2566 (วันละ 1 เท่ียวบิน) รวมถึงลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อพัฒนาความร่วมมือและศึกษาความเป็นไปได้ ในการให้บริการเท่ียวบินลักษณะ Joint Venture Operation ระหว่างบริษัทฯ และเตอร์กิชแอร์ไลน์ สำหรับนครอิสตันบูล ที่เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางและเพิ่มความได้เปรียบในการให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อไปยังทวีปยุโรป และแอฟริกา
ในปี 2566 มีการขายทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ ดังน้ี
- เครื่องบิน B747-400 รวม 6 ลำ B737-400 จำนวน 1 ลำ และ A340-600 จำนวน 2 ลำ
- เครื่องยนต์อะไหล่ท่ีไม่ได้ใ้ฃ้งานแล้ว จำนวน 5 เครื่องยนต์
- หุ้นบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด จำนวน 1,868 หุ้น
- อสังหาริมทรัพย์ 4 แห่ง ได้แก่ ห้องชุดพักอาศัยประเทศสิงคโปร์ สำนักงานขายกรุงโรม ประเทศ อิตาลี บ้านพักกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย และสำนักงานขายมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ ในปี 2566 มีการปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินกลุ่มธุรกิจการบิน โดยบริษัทฯ รับโอนเครื่องบิน A320-200 จาก บริษัท ไทยสมายล์ จำนวน 16 ลำ ทำการบินแทนในเส้นทางในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และอุดรธานี และระหว่างประเทศ ได้แก่ อาห์เมดาบัด กัลกัตตา กายา ฮานอย เกาสง กาฐมาณฑุ ปีนัง พนมเปญ ย่างกุ้ง เสียมราฐ โฮจิมินห์ และเวียงจันทน์ ทั้งนี้ ในเดือน ม.ค. 2567 จะรับโอนเครื่องบินอีก 4 ลำ และให้บริการในเส้นทางในประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี กระบี่ หาดใหญ่ และ นราธิวาส
อีกทั้งมีความร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจ เช่น ร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จัดเที่ยวบินนำร่องในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) หรือร่วมกับ JimThompson ทำ AmenityKit ในแนวคิดรักษ์โลกให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ รวมถึงปรับเปลี่ยนเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
ณ 31 ธ.ค. 2566 เปรียบเทียบกับ ปีก่อนหน้า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 238,991 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.6% มีหนี้สินรวม 282,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ติดลบจำนวน 43,142 ล้านบาท ติดลบลดลง 27,882 ล้านบาท และจากผลประกอบการที่เป็นบวก บริษัทฯ มีเงินสด รวมตั๋วเงินฝาก เงินฝากประจำ และหุ้นกู้ ที่มีระยะเวลาครบกำหนดชำระมากกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน จำนวน 67,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32,590 ล้านบาท
ที่มา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา