ประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว Elon Musk เคยบอกไว้ว่า “ความตั้งใจของ Tesla คือเราจะไม่หวังกำไรจากการบำรุงรถ มันเป็นเรื่องที่แย่นะ ถ้าจะต้องมาเก็งกำไรกับบริการแบบนี้”
แต่มาถึงวันนี้ ดูเหมือนว่า เขาอาจจะคิดผิด และคงต้องคิดใหม่อีกที
เพราะถ้าไปดูผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ธุรกิจที่ทำให้ Tesla เติบโตและมีกำไรอย่างมากมาจาก ‘งานบริการยานยนต์’ และ ‘ค่าชาร์จแบตรถผ่าน Supercharger’ หรือเรียกง่ายๆ ว่าธุรกิจบริการ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ Musk เคยมองข้าม (และแถมเคยดูถูกด้วยซ้ำ)
ก่อนหน้านี้ Musk เคยแซะผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ในตลาดว่า พวกเขาชอบขายรถที่ต้องเอามาซ่อมทีหลัง เพื่อเก็งกำไรจากการขายชิ้นส่วนใหม่ๆ เพราะถ้ารถมันดีจริง ก็คงไม่ต้องเอามาซ่อมบำรุงบ่อยๆ
แต่พูดไว้แรงแบบนั้น สุดท้ายก็เข้าตัว และมาถึงวันนี้ คนน่าจะมองว่า Musk ‘ดีแต่พูด’ เพราะเจ้าของรถ Tesla หลายๆ คนตอนนี้คงรู้แล้วว่า เวลาที่ต้องการซ่อมรถ Tesla กว่าจะนัดวันเช็กสภาพรถกับบริษัทได้ ต้องใช้เวลารอนานมากๆ
ไม่ได้โม้ แค่ความจริงมันเปลี่ยนไปแล้ว
หากจะไปโทษ Musk ก็คงจะไม่ได้ เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจบริการของ Tesla ไม่ได้สร้างกำไรให้บริษัทขนาดนั้นจริงๆ
ถ้าไปเปิดดูกำไรจาก ‘งานบริการและอื่นๆ’ (Services and Others) ของ Tesla จะเห็นว่ามันเพิ่งเพิ่มอย่างมหาศาลเมื่อ 2 ไตรมาสที่แล้วนี่เอง โดยกำไรส่วนนี้พุ่งขึ้นกว่า 8 พันล้านบาท หรือตีเป็นเพิ่มขึ้นกว่า 90% ของปีก่อน
ทั้งนี้ ถ้าถามว่าธุรกิจบริการของ Tesla หมายถึงอะไรบ้างนั้น เราคงไม่อาจทราบได้ แต่ Tesla ยืนยันว่า ที่กำไรเยอะขึ้น ส่วนใหญ่ก็มาจากงานบริการยานพาหนะ และ Supercharger นั่นล่ะ
แม้ว่า 8 พันล้านบาทจะดูน้อยมากเมื่อเทียบกับกำไรทั้งหมดของ Tesla แต่ถ้าดูแค่ส่วนต่างระหว่างปี 2024 กับ 2023 เงินก้อนนี้นับเป็นราวๆ 30% ของกำไรที่เพิ่มขึ้นเลย
หุ้นขึ้นสูงที่สุดในรอบ 11 ปี
ผลประกอบการที่ไม่คาดฝันนี้ ทำให้หุ้นของบริษัท Tesla พุ่งขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 แถมยังเพิ่มทรัพย์สินโดยรวม (Net Worth) ของ Musk ให้อยู่ที่ราวๆ 9 ล้านล้านบาท ทิ้งห่าง Jeff Bezos เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซไปถึง 2 ล้านล้านบาท
Musk คาดการณ์ให้ผลประกอบการจากกลุ่มยานยนต์โตขึ้นอีก 30% ในปี 2025 และจะเปิดบริการ Cybercab แท็กซี่ไร้คนขับ ในปี 2026
นอกจากนั้น Musk ยังพูดอีกว่า “Tesla จะกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก และคงเป็นไปอีกนานด้วย”
แฟนคลับ Tesla ออกตัวผิดหวัง
‘Fred Lambert’ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ‘Electrek’ แพลตฟอร์มข่าวสารด้านรถยนต์ไฟฟ้า ให้ความเห็นว่า ตนเองค่อนข้างผิดหวังกับผลประกอบการล่าสุด เพราะเมื่อก่อนเวลาที่มีคนมาขอคำปรึกษาเรื่องการซื้อรถ Tesla เขาจะยกคำพูดของ Musk มาใช้ตลอด
ตัว Lambert เองก็มีรถยนต์ Tesla ถึงสองคัน และตอนนี้มันถึงเวลาซ่อมแซมแล้วทั้งคู่ แต่ค่าเปลี่ยนอะไหล่มันช่างแพงเหลือเกิน แถมราคาชาร์จรถผ่าน Supercharger ยังสูงขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อ Tesla ดูภูมิใจกับกำไรที่มากขึ้นของงานบริการ เขาจึงไม่กล้าคอนเฟิร์มว่าบริษัทจะลดราคาให้อย่างที่คิดหรือเปล่า
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา