ด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุน และภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต ทำให้ Tesla แซงหน้า Toyota ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มี Market Capitalization มากที่สุดในโลก
เบอร์หนึ่งในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า
เมื่อเช้าวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) ราคาหุ้นของ Tesla นั้นพุ่งแตะ 1,134 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35,000 บาท) ก่อนที่จะลดลงเล็กน้อย ทำให้มูลค่ากิจการในช่วงเวลานั้นของ Tesla อยู่ที่ 2.09 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 6.48 ล้านล้านบาท) มากกว่า Toyota ถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.24 แสนล้านบาท)
นอกจากนี้มูลค่ากิจการดังกล่าวยังมากกว่าถึง 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับการนำมูลค่ากิจการของ GM และ Ford มารวมกัน แสดงให้เห็นถึงการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Tesla หลังสามารถทำกำไรได้ติตด่อกัน 3 ไตรมาสล่าสุด และยังคงแผน และคาดการณ์รายได้ไว้เหมือนเดิม แม้จะมีการระบาดของโรค COVID-19
สำหรับแผนดังกล่าวคือการส่งมอบรถยนต์ให้ได้ 5 แสนคัน และนักลงทุนค่อนข้างมั่นใจในตัวเลขนี้ แม้ Tesla จะเคยขาดทุนมาตลอด 10 ปีก็ตาม เนื่องจากกำลังการผลิตที่เริ่มมีประสิทธิภาพ ประกอบกับภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโต และน่าจะมีอนาคตที่สดใส
อย่างไรก็ตามหากมองในแง่จำนวนส่งมอบรถยนต์ และรายได้ Toyota ยังทำได้มากกว่า 30 เท่า และ 10 เท่าตัวตามลำดับ กล่าวคือ ส่งมอบรถยนต์ได้ 10.46 ล้านคันในปีปฏิทินที่สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2563 และมีรายได้กว่า 30.2 ล้านล้านเยน (ราว 8.72 ล้านล้านบาท)
ส่วน Tesla ส่งมอบรถยนต์ได้ 3.67 แสนคัน และมียอดขาย 23,600 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.32 แสนล้านบาท)
สรุป
ช่วงนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้านั้นเติบโตจริงๆ และนักลงทุนก็เชื่อมั่นในตลาดนี้สุดๆ จึงไม่แปลกที่ราคาหุ้นของ Tesla เบอร์หนึ่งในความคิดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าของเกือบทุกคน จะพุ่งแรงขนาดนี้ ดังนั้นต้องติดตามต่อไปว่าราคานั้นจะพุ่งไปมากกว่านี้หรือไม่ และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้
อ้างอิง // BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา