Tesla แจ้งยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เหตุตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแข่งเดือด

Tesla แจ้งยอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 ลดลง 1.1% จากปีก่อน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่บริษัทแจ้งยอดส่งมอบลดลง เหตุแบรนด์จีนทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแข่งเดือน คู่กับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่อำนวย แม้จะพยายามลดราคา, ให้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ หรือชาร์จฟรีก็ไม่สามารถจูงใจผู้ซื้อได้

Tesla
ภาพโดย capital street fx จาก Pixabay

ตลาดแข่งเดือดทำยอดส่งมอบต่ำกว่าคาด

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Tesla รายงานยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 495,570 คันในไตรมาส 4 ของปี 2024 ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 503,269 คัน โดยในปี 2024 Tesla ส่งมอบรถยนต์ทั้งหมด 1.79 ล้านคัน ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับปี 2023 และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 1.806 ล้านคัน

ในทางกลับกันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD เพิ่มขึ้น 12.1% เป็น 1.76 ล้านคันในปีเดียวกัน โดยปัญหาหลักของ Tesla คือการลดลงของมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้งานรถยนต์ไฮบริดมากขึ้น และที่สำคัญคือแบรนด์จีนโดยเฉพาะ BYD ทำให้การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าดุเดือด

Seth Goldstein นักวิเคราะห์จาก Morningstar ระบุว่า การลดลงของยอดส่งมอบเป็นสัญญาณของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla อาจถึงจุดอิ่มตัวในตลาด และการลดลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริการเสริมของบริษัท เช่น ซอฟต์แวร์ระบบขับขี่อัตโนมัติ, การชาร์จ และประกันภัย

ก่อนหน้านี้ Elon Musk ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tesla ได้เปลี่ยนความสนใจไปยังการพัฒนาธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับ เพราะอาจสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทในอนาคต แต่ถึงอย่างไรเทคโนโลยีนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และอาจใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเข้าสู่ตลาด

Cybertruck กับความสำเร็จในตลาด?

Cybertruck ซึ่งเป็นรถกระบะไฟฟ้าล้วนดีไซน์ล้ำของ Tesla ยังคงเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน โดย Tesla ยังไม่ได้เปิดเผยยอดส่งมอบที่แน่ชัดของรุ่นนี้ในปี 2024 โดยยอดส่งมอบของ Tesla ในไตรมาสที่ 4 ประกอบด้วย

  • Model 3 และ Model Y จำนวน 471,930 คัน
  • รุ่นอื่น ๆ เช่น Model S, Model X และ Cybertruck จำนวน 23,640 คัน

ทั้งนี้ Tesla ได้รับแรงสนับสนุนทางการเมืองจากการสนับสนุนแคมเปญเลือกตั้งของประธานาธิบดี Donald Trump โดย Elon Musk หวังที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบเกี่ยวกับการอนุมัติยานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติในระดับรัฐบาลกลาง แทนที่กฎระเบียบแบบรัฐต่อรัฐที่เขามองว่า ยุ่งยาก

เทคโนโลยี Autopilot และ Full Self-Driving ของ Tesla ยังถูกจับตาจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ นอกจากนี้รัฐบาลยังพิจารณายกเลิกการสนับสนุนมูลค่า 7,500 ดอลลาร์ สำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2025 ซึ่งอาจกระทบต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ

ไม่ใช่แค่จีน ยุโรปก็พร้อมเล่น Tesla เหมือนกัน

ในตลาดยุโรป Tesla เจอกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Volkswagen Group เช่น SUV ของ Skoda รุ่น Enyaq สามารถแย่งตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าขายดีจาก Model Y ได้ในปีที่ผ่านมา จนการจดทะเบียนรถยนต์ Tesla ในยุโรปลดลงถึง 24% ในเดือน ต.ค. 2024 ถึงขั้น Tesla เตรียมหาวิธีใหม่ ๆ มาจูงใจผู้ซื้อ

Brand Inside มองว่า จากแรงกดดันจากตลาดที่เปลี่ยนแปลง และความท้าทายด้านเทคโนโลยี ทำให้ Tesla ต้องพึ่งพาความสำเร็จของ Cybertruck และการเปิดตัวรุ่นรถใหม่ที่มีราคาถูกลง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

ยิ่งปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าแข่งขันกันเดือด และการเลือกข้างอย่างชัดเจนของ Elon Musk ทำให้การรักษาภาพผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ยากกว่าเดิม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา