Tesla หุ้นตก 12% รับปีใหม่ มูลค่ากิจการหายไปกว่า 70% เหตุส่งมอบน้อยกว่าคาด ตลาดแข่งเดือด

Tesla ปิดตลาดวันที่ 3 ม.ค. 2023 (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) ลดลง 12% มูลค่ากิจการเหลือ 3.40 แสนล้านเหรียญ น้อยกว่า 70% ของช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 ที่ทำได้ 1.12 ล้านล้านเหรียญ เหตุส่งมอบรถล่าช้า ตลาดแข่งดุ นักลงทุนกังวลเรื่อง Twitter

Tesla

Tesla ดิ่งจากมูลค่ากิจการ 1 ล้านล้านเหรียญ

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ในวันที่ 3 ม.ค. 2022 (ตามเวลาสหรัฐอมเริกา) Tesla มีมูลค่าหุ้นลดลง 12% ปิดที่ 108.10 ดอลลาร์สหรัฐ และในวันดังกล่าวมีการซื้อขายในราคา 106.64 น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2020 ทำให้มูลค่ากิจการ Tesla หายไปกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ภายในวันเดียว

ขณะเดียวกันมูลค่ากิจการ Tesla ยังเหลือเพียง 3.40 แสนล้านดอลลาร์ น้อยกว่า 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1.12 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ยังเป็นธุรกิจรถยนต์ที่มีมูลค่ากิจการมากที่สุดโดยทิ้งห่าง Toyota ที่มีมูลค่ากิจการเป็นอันดับ 2 เกือบเท่าตัว

แรงเทขายจำนวนมากเกิดจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2022 ที่ Tesla ส่งมอบรถยนต์ได้ 4.05 แสนคัน น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 4.31 แสนคัน ส่วนจำนวนการส่งมอบทั้งปีแม้จะเพิ่มขึ้นถึง 40% แต่ยังน้อยกว่าที่ Elon Musk ประธานเจ้าหน้าที่บริหารตั้งเป้าไว้เติบโต 50%

เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน ทำให้ภาพรวมตลาดรถยนต์ที่นั่นหดตัว จน Tesla ต้องลดราคา และสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับประกันเพื่อกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ Tesla ยังทำแบบนี้ในตลาดสหรัฐอเมริกาเช่นกัน เมื่อต้องลดราคาใน 2 ตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงกระทบกับเรื่องผลกำไรโดยตรง

นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลว่า Elon Musk จะไม่สามารถเต็มที่กับ Tesla เพราะมี Twitter กิจการใหม่ที่เขาขายหุ้น Tesla เพื่อระดมทุน 44,000 ล้านดอลลาร์ไปซื้อ ซึ่งนับตั้งแต่เขามีข่าวกับ Twitter มูลค่ากิจการ Tesla นั้นลดลงไปกว่า 3.70 แสนล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองว่า Tesla กำลังจะก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดรถยนต์โลก ทำให้บริษัทจะเข้าสู่ช่วงการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือไม่มีความหวือหวา แต่บริษัทจะเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจซบเซาแรงขึ้น ต่างกับช่วงบริษัทเริ่มเติบโตที่ยังมีบทบาทในตลาดค่อนข้างน้อย

สรุป

Tesla ถือว่าอยู่ในช่วงวิกฤตของกิจการ เพราะบริษัทอยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน ยิ่ง Elon Musk มีเรื่อง Twitter เข้ามารบกวนการบริหาร Tesla ยิ่งทำให้นักลงทุนมองว่าเขาอาจไม่จริงจัง สังเกตจากช่วงที่มูลค่ากิจการค่อย ๆ ลดลง เขากลับไม่ใส่ใจเรื่องนี้ และจริงจังกับการซื้อกิจการ Twitter มากกว่า

อ้างอิง // Reuters

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา