ใครๆ ก็เลือกสิงคโปร์ Tencent เตรียมย้ายหลายธุรกิจปักหลักสิงคโปร์ หนีดราม่าการเมืองระดับโลก

Tencent
SINGAPORE – MARCH 15: Visitors and exhibitors network at the Tencent booth during the Sportel Asia Conference on March 15, 2016 in Singapore. (Photo by Sean Lee/Getty Images for Sportel)

สิงคโปร์ ฮับเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

แหล่งข่าวใกล้ชิดของ Tencent ซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนได้ให้ข้อมูลกับ Bloomberg โดยระบุว่า Tencent ได้เลือกปักหมุดให้สิงคโปร์เป็นหัวหาด (beachhead) หรือศูนย์กลางที่มีศักยภาพในภูมิภาค (potential regional hub) ของบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในแถบเอเชีย

ประเด็นสำคัญเป็นเพราะการเมืองระดับโลกที่กดดันให้หลายบริษัทจำเป็นต้องเลือกเพื่อทำธุรกิจในระดับโลกต่อไป โดยกรณีที่เด่นชัดที่สุดนอกจาก Tencent แล้วก็คือ Bytedance บริษัทแม่ของ TikTok ที่มีประเด็นทางการเมืองและความมั่นคงของชาติระหว่างจีน-สหรัฐฯ อยู่ในขณะนี้

ส่วน Tencent เองก็เคยถูกสหรัฐ สั่งแบนแอพพลิเคชั่นในเครืออย่าง WeChat ไปตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รวมถึงล่าสุดก็มีประเด็นทางการเมืองในอินเดีย โดยในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา บรรดาเกมในเครือของ Tencent อย่าง PUBG Mobile และ Arena of Valor ถูกแบนในอินเดีย ด้วยเหตุผลทำนองเดียวกันคือ เพื่อความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อย

ทางออกที่ดีที่สุดในการรุกตลาดเอเชียและในระดับโลกของ Tencent จึงหนีไม่พ้นประเทศที่มี ecosystem ครบพร้อม (และวางตัวเป็น “เพื่อนที่ดี” ของจีนและสหรัฐฯ) อย่าง “สิงคโปร์” นั่นเอง

Singapore สิงคโปร์
Photo: Unsplash

แหล่งข่าวใกล้ชิดของ Tencent เปิดเผยว่า หลังจากนี้ Tencent จะย้ายหลายธุรกิจของบริษัทออกจากจีน แล้วมาดำเนินการแทนในสิงคโปร์ ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเกมมิ่งที่ต้องการตีตลาดนานาชาติ อย่างไรก็ตาม หากดูความเคลื่อนไหวของ Tencent ในสิงคโปร์จะพบว่า ทางบริษัทเตรียมเปิดออฟฟิศใหม่และเตรียมจ้างงานอีกหลายตำแหน่งในสิงคโปร์ เช่น Business Development และคนที่ทำงานในสาย cross-border commerce, cloud computing และ esports เป็นต้น

นอกจาก Tencent ที่เลือกสิงคโปร์แล้ว มีรายงานว่า Bytedance บริษัทแม่ของ TikTok ก็ทุ่มเม็ดเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนและจ้างานในสิงคโปร์ในช่วง 3 ปีนับจากนี้ รวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีนอย่าง Alibaba ที่ลงทุนปักหลักในสิงคโปร์มานานผ่าน Lazada ล่าสุดก็ยังมีข่าวความสนใจเข้าลงทุนใน Grab ซึ่งสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์อีกด้วย

ที่มา – Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา