Tencent และบริษัทในวงการเกมรายอื่นๆ พากันหุ้นตกทั้งกระดาน หลังโดนสื่อรัฐบาลจีนโจมตีเกมออนไลน์อย่างหนักหน่วง ส่งสัญญาณเตือนว่าทางการเตรียมเข้าควบคุม
ยาเสพติดดิจิทัล
หุ้นของบริษัทเกมในจีนตกฮวบ หลังหนังสือพิมพ์ Economic Information Daily ในเครือ Xinhua ของรัฐบาลจีนลงบทความโจมตีเกมออนไลน์ และเปรียบเทียบเกมว่าเหมือน “ฝิ่นทางใจ” โดยให้เหตุผลว่า “ไม่มีอุตสาหกรรมใด กีฬาใด ที่จะถูกปล่อยให้ทำลายคนทั้งรุ่นได้”
โดยบทความกล่าวว่าวัยรุ่นจำนวนมากเสพติดการเล่นเกมออนไลน์ โดยเฉพาะเกม Honor of Kings (RoV) ที่เป็นเกมที่มีความนิยมสูงสุดของ Tencent ที่บางคนเล่นถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน
ข่าวนี้ทำให้นักลงทุนหวั่นเกรงการแทรกแซงจากรัฐบาลในอนาคต ส่งผลกระทบถึงหุ้นของ Tencent ที่เป็นผู้นำตลาด และคู่แข่งอย่าง NetEase และรายอื่นๆ อีกด้วย โดย Tencent เองก็โดนรัฐเข้าควบคุมในหน่วยธุรกิจอื่นๆ เช่น ลิขสิทธิ์เพลงและการสตรีมเกมอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
- ถึงคราว Tencent โดนทุบ ทางการจีนควบคุมการผูกขาดสั่งห้ามควบรวมกิจการ 2 แอปสตรีมเกมใหญ่
- แอปสตรีมเพลงของ Tencent ถูกทางการจีนยกเลิกสัญญาผูกขาดลิขสิทธิ์ พร้อมสั่งปรับ
การควบคุมของรัฐบาลจีน
ในปีที่ผ่านมา ทางรัฐบาลจีนได้เริ่มเข้ามาควบคุมวงการเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรุนแรงมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่ามีที่มาจากแนวคิดทางการเมืองของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ต้องการให้จีนแซงสหรัฐอเมริกาได้ในทุกๆ มิติ รวมถึงด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และ ความมั่นคงแห่งชาติ
ตั้งแต่การควบคุมวงการติวเตอร์ ปรับกฎหมายให้ดูแลสุขภาพจิตใจของเยาวชนให้ดีขึ้น หรือการพิจารณาสั่งให้ปรับโครงสร้างเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรก็ตาม หรือจะเป็นการควบคุมวงการฟินเทคและการแบนคริปโตเคอเรนซี่ ยังไม่รวมวงการแท็กซี่ เช่น Didi และวงการอีคอมเมิร์ซ เช่น การปรับเงิน Alibaba ก็ตาม ซึ่งจุดร่วมของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้คือ Big Data ที่ทางรัฐบาลจีนไม่ยอมให้หลุดออกไปนอกประเทศเป็นเด็ดขาด จนถึงขนาดระงับการ IPO ของบริษัทจีนในอเมริกาเลยทีเดียว
ในด้านของวงการเกม ทาง Tencent ก็กำลังเตรียมใช้ระบบตรวจสอบใบหน้า เพื่อบังคับให้เยาวชนเล่นเกมหลังเวลานอนไม่ได้ หลังจากโดนเพ่งเล็งจากรัฐบาลไปเพราะไล่ซื้อสตูดิโอเกมจำนวนมาก
สรุป
เมื่อเริ่มเห็นทิศทางของรัฐบาลจีนแล้ว การเข้ากำกับบริษัทเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยนีก็ไม่น่าแปลกใจอีกต่อไป แต่น่าจับตามองว่า ใครจะเป็นรายต่อไปมากกว่า ตอนนี้บริษัทจีนมีทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้น คือ ยอมร่วมมือ ไม่ก็โดนยึดอำนาจแน่นอน
ที่มา – Reuters, Bloomberg, Blognone
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา