Techsauce ประกาศกลยุทธ์ 4 THAI ภายใต้ 7 เป้าหมายหลักเพื่อเร่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Tech Gateway ของภูมิภาค ครอบคลุมทั้งการผลักดันด้านการลงทุนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย (Inbound) และการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถสูง (Talent) และนักลงทุนให้เข้ามาดำเนินธุรกิจภายในประเทศมากขึ้น รวมทั้งยังผลักดันการเติบโตของธุรกิจไทยออกต่างประเทศ (Outbound) ซึ่งจะเป็นประตูสู่โอกาสในการขับเคลื่อนประเทศไทยมาอยู่แถวหน้า พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งผลให้เกิดเม็ดเงินการลงทุนหมุนเวียนอย่างยั่งยืนแก่ประเทศไทย เป็นประโยชน์ต่อทั้งภาครัฐบาล เอกชน ผู้ประกอบการ ตลอดจนภาคสังคมและประชาชนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้านเทคโนโลยีทั้งหมด
โดยกลยุทธ์ 4 THAI ประกอบไปด้วย 7 เป้าหมาย Inbound และ Outbound มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Tech Gateway ได้แก่
Inbound 4 เป้าหมาย : T H A I
T – Talent: ดึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ (Tech Talent) จากต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อร่วมเสริมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในภูมิภาค สร้างบุคลากรหัวกะทิและคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
H – Home base: ขยายฐานการผลิตจากต่างประเทศสู่ประเทศไทย โดยการเพิ่มจำนวนบริษัทและโครงการในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีให้เข้ามาตั้งสำนักงานและฐานการผลิตในไทย
A – Asset movement: ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีโดยการนำเทคโนโลยีที่องค์กรไทยไปลงทุนจากต่างประเทศกลับมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถแก่ประเทศไทยในการแข่งขันในตลาดโลกและส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน
I – Investment: เพิ่มการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามายังประเทศไทย เพื่อกระจายเม็ดเงินการลงทุนจากนักลงทุนหลากหลายประเทศ โดยเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2024
Outbound 3 เป้าหมาย : Thai Innovation, Thai Brand, และ Thai Tech Talent
Thai Innovation: ยกระดับนวัตกรรมของประเทศไทยและเสริมความสามารถในการสร้างนวัตกรรมให้กับธุรกิจไทย ด้วยการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมของคนไทยหรือ “ไทย – ใช้ – ไทย”
Thai Brand: พาองค์กรด้านนวัตกรรมของไทย ให้เติบโตสู่ระดับภูมิภาค เพิ่มโอกาสให้ “แบรนด์ไทยโตได้” องค์กรด้านนวัตกรรมไทย เติบโตสู่ระดับภูมิภาค
Thai Tech Talent: พัฒนาทักษะให้กับ tech talent ของไทยได้เติบโตสู่เวทีโลก และดึงดูด tech talent ไทยที่อยู่ในต่างแดนให้กลับมาช่วยกันพัฒนาประเทศ
ทั้งนี้การดำเนินงานโครงการ Tech Gateway เป็นความร่วมมือจากภาคเอกชนกับองค์กรชั้นนำได้แก่ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), เอสซีจี – บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน), สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย, บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด, บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) โดยทุกหน่วยงานมีอุดมการณ์ในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเพื่อมุ่งพัฒนาประเทศไทยร่วมกันให้สามารถบรรลุเป้าหมายในแต่ละหัวข้อ ตามแผนการในระยะยาวที่อยู่ในช่วงระยะเวลา 5 ปี โดยคาดว่าจะดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์แบบครบทุกด้านในปี 2030 ซึ่ง Tech Gateway จะเป็นอีกหนึ่งประตูสู่การเปลี่ยนแปลงสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมไทยในการพัฒนา สร้างสรรค์เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วนในสังคม
depa ประกาศลงทุนใน Techsauce
ในการขับเคลื่อน Tech Gateway ครั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้ประกาศลงทุนในบริษัท Techsauce Media พร้อมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน โดยการที่ depa เข้าลงทุนใน Techsauce ซึ่งเป็น Tech Ecosystem Builder จะช่วยเกื้อหนุนการดำเนินงานของกันและกัน และยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยและอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศอย่างเข้มแข็งต่อไป
DITP ลงนาม MOI โครงการ Tech Gateway
ด้านของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ยังเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ Tech Gateway ของ Techsauce โดยได้มีการร่วมลงนามบันทึกแสดงเจตจํานง (MOI) ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการด้านเทคสตาร์ทอัพไทย (Tech Startup) ในการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันภาคธุรกิจบริการเทคสตาร์ทอัพ การสร้างโอกาสทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และการแสวงหาการลงทุนจากต่างประเทศ
Techsauce ประกาศจัดงาน Techsauce Global Summit พร้อมยก “เป็นงานของประเทศ”
นอกจากนี้ Techsauce ยังประกาศเดินหน้าจัดงาน “Techsauce Global Summit 2024” ภายใต้ธีม ‘The World of Tomorrow With AI’ ในวันที่ 7 – 9 สิงหาคม 2567 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ สานต่อมหกรรมด้านเทคโนโลยีสุดล้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พร้อมยกทัพพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีจากภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย และต่างประเทศกว่า 300 บริษัท และ 40 ประเทศทั่วโลก
อีกทั้งในปีนี้ Techsauce ยังเดินหน้าจัดงาน Techsauce Global Summit ที่ประเทศอินโดนีเซียในเดือนกันยายน และ Techsauce Global Summit ที่ประเทศเวียดนามในเดือนตุลาคม ร่วมกับ บริษัท กสิกร บิซิเนส–เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็น Tech Ecosystem Builder และเชื่อมโยงความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมุ่งเดินหน้าสู่เป้าหมายการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น Tech Gateway ของภูมิภาคอาเซียนต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา