ในยุคที่ YouTube มาแรงสุดๆ เทคโนโลยี AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญช่วยแบรนด์จัดการคอนเทนต์ VDO

จากสถิติไทยติดอันดับท็อป 10 ของโลกในแง่การบริโภค VDO ผ่าน YouTube [1] ขณะที่ข้อมูลจากทั่วโลกระบุว่าทุกๆ 1 นาทีมีคอนเทนต์ VDO ถูกอัพโหลดขึ้น YouTube มากกว่า 300 ชั่วโมง [2]

นอกจากนี้ยังพบว่าคนใช้มากกว่า 50% ของเวลาที่ออนไลน์ในแต่ละวันไปกับการดู VDO โดยอยู่บน YouTube เฉลี่ย 1.9 ชั่วโมงต่อวัน เข้ามาดู YouTube เฉลี่ย 3.3 ครั้งต่อวัน และแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 34 นาที [3]

เมื่อ VDO เป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์

สถิติข้างต้นตอกย้ำว่า VDO ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้บริโภคยุคดิจิทัลไปแล้ว ทุกวันนี้ VDO กลายเป็นแหล่งข้อมูลมหาศาลที่เอาเข้าจริงยังแทบจะไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถจัดการหรือประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ได้

จะดีแค่ไหนหากมีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่สามารถ “รู้และเข้าใจ” เนื้อหาใน VDO นั้นๆ สามารถเป็นตัวช่วยให้แบรนด์ใช้ประโยชน์จาก VDO ได้ง่ายขึ้น วิเคราะห์เนื้อหาได้อย่างละเอียดในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรืออารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละซีน

ที่ผ่านมา IBM ในฐานะบริษัทไอทีผู้บุกเบิกเรื่อง AI ภายใต้แบรนด์ IBM Watson เล็งเห็นถึงความสำคัญข้อนี้ และได้นำเทคโนโลยี AI ที่อาจดูเป็นเรื่องยากและไกลตัวมาให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงได้ผ่าน IBM Cloud ทำให้การจัดการคอนเทนต์ VDO กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ

ถ้าจะสะท้อนภาพได้ดีที่สุดคงต้องดูจากตัวอย่างการนำไปใช้จริง เราไปดูกันเลยว่าเทคโนโลยี AI จะเข้ามาเป็นตัวช่วยแบรนด์จัดการคอนเทนต์ VDO ได้อย่างไรบ้าง

คัดเลือก Highlight สุดยอดการแข่งขันกอล์ฟ Masters

การแข่งขันกอล์ฟ Masters ใช้เทคโนโลยี IBM เข้ามาช่วยสนับสนุนมากว่า 20 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีการนำ IBM Watson ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI มาช่วยประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในแง่ต่างๆ เช่น ความเร็วของลูก ปฏิกริยาของผู้ชม เป็นต้น โดยวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลสถิติย้อนหลังของการแข่งขัน

แต่ที่พิเศษในปีนี้คือการใช้ IBM Watson ช่วยคัดเลือกไฮไลต์การแข่งขันกอล์ฟ Masters โดยประเมินจากเสียงเชียร์ของผู้ชม (crowd cheering) ท่าทางของผู้เล่น (player gestures) ระดับความตื่นเต้นรวมถึงคำพูดที่แสดงถึงความตื่นเต้นของเสียงคนพากย์ (commentator excitement) และวัดผลออกมาเป็นคะแนนความน่าตื่นเต้นของคลิปนั้น (overall excitement)

ดังนั้นเมื่อเกิดการโห่ร้อง เสียงปรบมือ ท่าทางดีใจ จังหวะสำคัญต่างๆ ระบบก็จะวัดผลและตัดมาเป็น Highlight สำคัญๆ เพื่อนำเสนอเป็นวิดีโอรวมไฮไลต์การแข่งขันให้อัตโนมัติ

ดูแล้วเหมาะมากสำหรับการนำมาต่อยอดช่วยตัดต่อไฮไลต์การถ่ายทอดสดกีฬา คอนเสิร์ต หรือรายการต่างๆ ในบ้านเรา เพื่อแชร์ผ่านโซเชียลให้แฟนๆ ติดตามได้แบบไม่ต้องรอ ช่วยเรียกคะแนน likes และ engagement ให้กับแบรนด์

Trailer หนัง ก็ใช้ AI ตัดต่อได้แล้ว!

อีกผลงานหนึ่งที่น่าจะเรียกเสียงฮือฮาในวงการภาพยนตร์ได้พอสมควร คือ ความสามารถในการตัดต่อ Trailer หรือหนังตัวอย่าง ซึ่งระบบจะพิจารณาจากคอนเทนต์ทั้งเรื่อง และเลือกตัดเนื้อหาที่สำคัญโดยพิจารณาจาก 3 ส่วน คือ

การวิเคราะห์จากภาพ บุคคล สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น (Visual analysis) การวิเคราะห์เสียงพูดคุย ดนตรีประกอบ (Audio analysis) เพื่อเข้าใจบริบทและอารมณ์ในเวลานั้น และสุดท้ายพิจารณาจากองค์ประกอบของฉาก ซึ่งโดยปกติการตัดต่อ Trailer จะใช้คนที่มีประสบการณ์และใช้เวลาราว 10-30 วัน แต่ครั้งนี้เป็นหน้าที่ของ AI ทำได้ภายใน 24 ชั่วโมง

และภาพยนตร์ที่เลือกใช้ IBM Watson มาตัดต่อ Trailer คือเรื่อง Morgan ถือเป็นเรื่องท้าทายเพราะเป็นหนังสยองขวัญ และต้องสร้างแรงดึงดูดใจให้ผู้ชมอยากตามไปดูต่อในโรงภาพยนตร์ ซึ่ง IBM Watson ต้องดูภาพยนตร์เรื่อง Morgan ทั้งเรื่อง วิเคราะห์เนื้อหาทั้งหมด และตัดต่อมาเป็น Trailer ที่เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก

ตรวจสอบภาพในวิดีโอด้วย AI

อีกหนึ่งรูปแบบการใช้งานสำหรับ VDO คือ การใช้ AI ในการจดจำ จำแนกคนและสิ่งของ และประมวลผลอัตโนมัติ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ในไลน์การผลิตที่มีการติดตั้งกล้องวิดีโอ ระบบ AI สามารถช่วยจำแนกวัตถุดิบที่เสีย เพื่อไม่ให้มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหลุดไประหว่างส่งออก หรืออาจนำมาใช้ในการตรวจสอบบุคคลที่เดินเข้าออกสถานที่สำคัญ หากใส่แว่น ใส่หน้ากาก หรืออำพรางใบหน้า ระบบจะจับได้ทันที

ระบบดังกล่าวเรียกว่า Object detection และ Image classification ซึ่งหลังจากฝึกฝนระบบด้วยวิธีง่ายๆ ชนิดที่ใครก็ทำได้แล้ว จะสามารถนำระบบมาช่วยวิเคราะห์เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อีกหลายด้าน เช่น การใช้ AI มาช่วยสอดส่อง shelf ในซูเปอร์มาร์เก็ตผ่านกล้องวิดีโอ หากสินค้าชนิดใดขายดีจะรู้ถึงความต้องการของตลาด หรือสินค้าใดหายไปจากชั้นวางทีมงานต้องรีบเติมสินค้า ในอีกแง่แบรนด์อาจใช้ระบบช่วยดูข่าว ละคร หรือรายการต่างๆ ย้อนหลังเพื่อดูว่าคู่แข่งมีการโฆษณาอย่างไร มากน้อยแค่ไหน จะได้วางกลยุทธ์แข่งขันได้ต่อไป

บริการนี้เรียกว่า Power AI นอกจากในธุรกิจและอุตสาหกรรมการผลิตแล้ว ยังสามารถใช้ในระบบรถยนต์ไร้คนขับได้ด้วย โดย AI จะพิจารณาภาพที่ปรากฎบนวิดีโอเพื่อจำแนกว่า มีคน รถ หรือวัตถุที่กีดขวางทางอยู่หรือไม่

ตรวจสอบความเสียหายอย่างชาญฉลาดด้วย Drone อัจฉริยะ

อีกตัวอย่างที่ใกล้ตัวมากขึ้น คือการใช้ Visual Recognition มาวิเคราะห์จากภาพวิดีโอแบบเกือบเรียลไทม์ เช่น บริษัทประกันภัย ที่ใช้ Drone บินสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นในภาพรวมหลังจากลูกเห็บตก และนำไปสู่การพิจารณาจ่ายเงินประกันชดเชย หรือการวางแผนซ่อมแซม

หรือบริษัทประกันอาจเพิ่มเติมเทคโนโลยี Personality Insights ที่ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์บุคลิกของลูกค้าแต่ละคนจากแหล่งข้อมูลที่ลูกค้าอนุญาต (เช่น social network, log การสนทนาระหว่างลูกค้ากับ call center เป็น) เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับสไตล์ของลูกค้าได้แบบเฉพาะบุคคลจริงๆ หลักการนี้อาจต่อยอดไปใช้กับธนาคารต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอกองทุนที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของลูกค้าแต่ละคน แถมวิเคราะห์ได้ว่าควรส่งตัวแทนคนไหนไปคุยกับลูกค้า ที่น่าจะเข้ากับสไตล์ของลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด (ลองใช้งานได้ที่ IBM Investment Advisor)

เริ่มใช้ AI จัดการคอนเทนต์ VDO ได้แล้ววันนี้ที่ IBM Cloud ทดลองใช้ฟรีทุกฟีเจอร์

ปัจจุบันมีการนำระบบ AI จาก IBM Watson ไปใช้งานอย่างแพร่หลายแล้วใน 45 ประเทศ กระจายอยู่ใน 20 อุตสาหกรรม โดยคาดว่าภายในปีนี้จะมีผู้บริโภคที่ได้รับประโยชน์จาก IBM Watson ถึง 1,000 ล้านคนทั่วโล

ความพิเศษคือตอนนี้สามารถสมัครใช้งานได้ทุกฟีเจอร์ฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ IBM Bluemix หรือ inbox หา IBM Thailand ได้โดยตรงที่ fb.com/IBMThailand

ข้อมูลอ้างอิง:

[1] กูเกิ้ลประเทศไทย

[2] fortunelords.com/youtube-statistics

[3] TNS

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา