TDG แนะ Cloud AI Robotics ทางออกสำหรับธุรกิจหลังยุค COVID-19

การทำ Digital Transformation นั้นจบไปแล้ว ตอนนี้แทบทุกธุรกิจควรจะมี Digital ที่เป็น CORE คือ มีแกนกลางเป็นดิจิทัลในการทำธุรกิจ

แต่พอลงลึกในรายละเอียดว่า ใช้ระบบ Cloud, AI หรือ Robotics ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างไร บางครั้งอาจยังเป็นคำถาม และจะสร้างความแตกต่างให้กับองค์กรอย่างไร กลายเป็นสิ่งที่หลายองค์กรอาจยังนึกภาพไม่ออก เพราะนี่คือสิ่งที่เรียกว่า New Normal ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น

ยิ่งในยุค COVID-19 ที่บอกได้ว่าเป็นวิกฤตที่รุนแรงและใหม่มากชนิดที่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คาดการณ์ไม่ได้ แก้ปัญหาได้ยาก แล้วธุรกิจจะก้าวผ่านไปได้อย่างไร

True Digital Group เทคโนโลยีอยู่ใกล้กว่าที่คิด

คุณเอกราช ปัญจวีณิน กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น หน่วยงานในบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด หรือ TDG บอกว่า เมื่อเกิด COVID-19 ขึ้นมาแล้ว การทำธุรกิจจะมองแบบระยะสั้นอย่างเดียวไม่ได้ และต้องคิดถึงการบริหารจัดการวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ และหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยได้คือ Digital

ตัวอย่างของ Digital ที่ทรงพลังแม้ไม่มีธุรกิจ Physical อยู่เลย เช่น Grab, GET หรือ ​LINE Man ที่ให้บริการผ่าน Platform แต่สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ ดังนั้น ทางออกของธุรกิจคือ ต้องนำ Digital มาใช้เป็น CORE ได้อย่างถูกต้อง

จุดนี้ถือว่าตรงกับงานของ TDG ที่นำ Digital Technology มาเพิ่มพลังให้กับธุรกิจ โดยมีธุรกิจหลัก 4 ส่วน

  1. True ID เน้นส่วนของ Content สำหรับ Consumer เป็นหลัก
  2. True Point เน้นส่วนของสิทธิพิเศษ Privilege ต่างๆ ให้กับร้านค้าและลูกค้า
  3. True Digital Academy ที่เน้นเพิ่มสกิลดิจิทัลให้กับพนักงานองค์กร
  4. Digital Solutions  ที่เน้นการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆให้บริการกับลูกค้าองค์กรเป็นหลัก

นวัตกรรมและเทคโนโลยีทั้งหมด ต้องสามารถตอบโจทย์ทั้งระดับ บุคคล (Individual) องค์กร (Organisation) สังคม (Society) Regional (ภูมิภาค) และระดับโลก (Global) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

คุณเอกราช ปัญจวีณิน กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น หน่วยงานในบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด หรือ TDG

เจาะลึก Digital Solutions และ Robotics

TDG มีการพัฒนาส่วนของ Digital Solutions มาโดยตลอด และหนึ่งในนั้นคือ Robotics เพรา TDG เชื่อมั่นว่า Robotics หรือ หุ่นยนต์ จะเป็นหนึ่งใน Solutions สำคัญที่มาเปลี่ยนโฉมการทำธุรกิจ และมาในรูปแบบของ Robot as a Service (RaaS) ที่ TDG กำลังจะนำร่องในเร็วๆ นี้

ในอดีตเราเคยรู้จัก Software as a Service หรือ Platform as a Service ซึ่งเป็นการพัฒนาบริการให้เกิดขึ้น แต่จากนี้จะคุ้นเคยกับ Robot as a Service หรือ RaaS มากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีปัจจัยสำคัญคือ ราคาไม่สูง ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้

เหนือสิ่งอื่นใด นอกจาก RaaS ที่จะช่วยให้องค์กรเติบโตได้ TDG วันนี้ได้เล่าถึงสิ่งที่จะมาเปลี่ยนความคิดที่เรามีเกี่ยวกับ Robotics หรือสิ่งที่เรียกว่า “True Digital RoboCore” มันสมองอัจฉริยะ ที่สุดท้ายอาจไม่ได้ออกมาเป็นตัวหุ่นยนต์ที่เราเคยเห็น โดยมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  1. AI Platform คือ แพลตฟอร์มที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทุกองค์กรสามารถ Tailor Made หรือออกแบบหุ่นยนต์ได้ตรงความต้องการ สมองของหุ่นยนต์ถูกเก็บไว้บน Clouds ซึ่งทำให้การสั่งการหรืออัพโหลดข้อมูลใหม่ๆ ทำได้เรียลไทม์
  2. 5G ที่ประมูลจบไป จะเป็นปัจจัยสำคัญในการปลดล็อกเรื่องความเร็ว ความเสถียร ความสามารถในการเชื่อมต่อ หุ่นยนต์จะเชื่อมต่อและคิดประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
  3. Endpoint คือ การใช้งานของผู้บริโภค จะมีความหลากหลาย หุ่นยนต์อาจจะมีลักษณะรูปร่างเป็นคน (Physical) หรือไม่ก็ได้ อาจมาในรูปแบบของ Virtual อย่างเช่น Kiosk หรือเป็นหน้าจอแสดงผลโดยเน้นที่ประสิทธิภาพเป็นหลัก

ซึ่ง TDG ได้ร่วมมือกับ CloudMinds พันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนากลุ่ม Cloud AI Robotics ในประเทศไทย

ตัวอย่างที่เห็นในต่างประเทศ​ เช่น Patrol Service บริการหุ่นยนต์ตรวจสอบพื้นที่และแจ้งเหตุ อาจเป็นในห้างสรรพสินค้า, สนามเด็กเล่น หรือสนามบิน เป็นต้น

หุ่นยนต์บริการ Delivery Service ซึ่ง ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นการส่งพัสดุหรืออาหาร แต่รวมถึงการขนย้ายสินค้าทางอุตสาหกรรม หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มีความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

คุณเอกราช บอกว่า การจะทำให้บริการ Robotics เกิดขึ้นและเป็นจริงได้ ต้องผสมผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน หรือเรียกว่า Digital Convergence ซึ่งมี 5 องค์ประกอบหลัก คือ

  1. IOT Integration เป็นเทคโนโลยีที่มี Sensor เชื่อมต่อสิ่งต่างๆ
  2. AI คือระบบการเรียนรู้และพัฒนาแบบอัตโนมัติ
  3. Analytics วิเคราะห์และประมวลผลได้ทันที
  4. Blockchain เพื่อความมั่นคงและและปลอดภัยของข้อมูลในการใช้งาน
  5. Cyber Security เพื่อความปลอดภัยในระบบจากการคุกคามทางไซเบอร์ภายนอก

เร็วๆนี้ ได้เห็นแน่นอน การใช้งานจริงในไทย

สำหรับเวลานี้ การใช้งานจริงในไทยอยู่ระหว่างการเตรียมการ โดยมีหลายธุรกิจ หลายโครงการที่สั่งผลิต Robotics เพื่อนำไปใช้งาน เช่น สนามบิน, ห้างสรรพสินค้า, อสังหาริมทรัพย์ รวมถึง Healthcare

ดังนั้น ในไทยจะเห็นภาพของการใช้หุ่นยนต์เพื่อ ทำหน้าที่ Delivery Service, Patrol Service, ​Information Service, Cleaning Service และ Sensor Service หรือแม้แต่ Education Service เป็น Virtual Teacher มีทักษะในการสอนได้หลากหลายทักษะ หลากหลายภาษา

อนาคต หุ่นยนต์สามารถไปอยู่ได้ทุกที่ ที่เรานึกไม่ถึง โดยเน้นที่ความเป็น AI Platform กับความ Smart ในการใช้งาน

ความแตกต่างที่ TDG มีให้กับลูกค้าองค์กร

นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ TDG พัฒนาขึ้น เน้นให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์สูงสุด ทีมงาน หรือ Resource ของ TDG มีความโดดเด่นทั้งเรื่องของ Technology World คือ เข้าใจเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ก็สามารถผสมผสานกับ Business World เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้จริง

Digital Solution ของ TDG มี 4 องค์ประกอบที่แตกต่างจากที่อื่น อันดับแรก TDG มี Complete Ecosystem ที่แข็งแกร่ง มี Back up เป็นบริการด้านโทรคมนาคมจาก True Corporation และอยู่ในเครือธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง CP Group รวมถึงระบบนิเวศน์ภายใน TDG เอง ที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ในประสิทธิภาพ

ความร่วมมือทางธุรกิจไม่เหมือนเดิม แต่เกิดขึ้นจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน นี่คือจุดที่ TDG เชี่ยวชาญและชำนาญมาก โดยใช้แนวคิด Digital Convergence เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่

ถ้าพูดถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ TDG พัฒนาขึ้น เน้นให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์สูงสุด ทีมงาน หรือ Resource ของ TDG มีความโดดเด่นทั้งเรื่องของ Technology World คือ เข้าใจเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ก็สามารถผสมผสานกับ Business World เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้จริง 

จุดเด่นที่แตกต่างประการต่อมาคือ TDG มี World Class Innovation Partnership ซึ่งเป็นสิ่งที่ TDG ให้ความสำคัญอย่างมาก ความร่วมมือกับพันธมิตรทำให้บริการของ TDG สมบูรณ์และแตกต่างยิ่งขึ้น

เฝ้าระวัง New Normal ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและส่งผลให้เกิด Disruption อย่างรุนแรงที่สุดคือ พฤติกรรมผู้บริโภค จากเดิมการ Disruption เกิดภายในอุตสาหกรรม หรือ ระหว่างอุตสาหกรรม แต่ถ้าผู้บริโภคเปลี่ยน ธุรกิจจะถูกบังคับให้เปลี่ยนตามแน่นอน

อีกส่วนที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงคือ Supply Chain ต้องคิดใหม่หมด จะพึ่งพิงจากแหล่งเดียวไม่ได้อีกต่อไป และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจ คือ Business Model

ตัวอย่าง ร้านอาหารที่ไม่เคยทำ Delivery ก็อยู่ไม่ได้ โรงพยาบาลจะดูแลแพทย์และพยาบาลให้ปลอดภัยได้อย่างไร เหล่านี้คือสิ่งที่ Digital Technology สามารถช่วยได้ และจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

อนาคตแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครต้านทานได้

คุณเอกราช บอกว่า  COVID-19 คือสิ่งที่มาเตือนมนุษย์ทุกคนว่าต้องปรับตัว นี่เป็นแค่คลื่นลูกแรกเท่านั้น จะมีคลื่นลูกต่อๆ ไปตามมาอีกในอนาคตแน่นอน 

โดยที่ COVID-19 เป็นตัวเร่งให้องค์กรต่างๆ กลับมาตื่นตัวเรื่อง Digital Technology เริ่มคิดถึง Business Model ใหม่ๆ สร้างการ Collaboration ระหว่างอุตสาหกรรมขึ้น และส่วนที่สำคัญสำหรับคน คือ ต้องทำการ Reskill และ Upskill ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

เราอาจเห็นว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับคนจำนวนมาก ธุรกิจที่เกี่ยวกับการเดินทาง ได้รับผลกระทบ แต่สุดท้ายจะมีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบตามไปด้วย คำถามคือ จะทำอย่างไรให้ปรับตัวได้ดี รวดเร็ว และอยู่รอดในโลกยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา