รัฐบาลไต้หวันเตรียมดึงเอกชนที่เป็นผู้ผลิตสินค้าไฮเทคกลับไต้หวันอีกครั้ง โดยเน้นไปที่การพัฒนาสินค้าไฮเทค พลังงานสะอาด รวมไปถึงการพัฒนาการอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วย
รัฐบาลไต้หวันเตรียมที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมไฮเทคที่มีฐานการผลิตในประเทศจีนนั้นกลับมาลงทุนในไต้หวันอีกครั้ง หลังจากที่สงครามกาารค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนยังไม่มีท่าทีได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ หลังจากในช่วงเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไฮเทคในไต้หวันได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศจีน เช่น Foxconn ฯลฯ เนื่องจากค่าแรงในประเทศจีนมีราคาถูก
นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมารัฐบาลไต้หวันได้เปิดโครงการให้เอกชนกลับมาลงทุนนั้น มูลค่าการลงทุนของบริษัทเอกชนที่จะกลับมาลงทุนในไต้หวันสูงถึง 39,000 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว โดยแผนการดังกล่าวมาจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า นำโดย ไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันคนปัจจุบัน ที่จะเน้นให้เอกชนกลับมาลงทุนในเรื่องของ อุตสาหกรรมไฮเทค พลังงานสะอาด รวมไปถึงการพัฒนาอาวุธโดยบริษัทในไต้หวัน
พื้นที่ละแวกภาคใต้ของไต้หวันนั้นจะเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อรองรับการกลับมาลงทุนของเอกชน ขณะเดียวกันรัฐบาลได้เตรียมขยายพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ละแวกเมืองไถ่หนาน และยังเตรียมสร้างอุทยานวิทยาศาสตร์ในเมืองเกาสง เพื่อรองรับบริษัทต่างๆ ในการทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
คุง มิงก์-ชิน รัฐมนตรีลอยที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทเอกชนไต้หวันเองที่ย้ายการผลิตสินค้าไฮเทคต่างๆ จนไปถึงจักรยานราคาแพง กลับไต้หวัน ขณะเดียวกันสินค้าอื่นๆ ที่มีกำไรน้อยกว่าเอกชนไต้หวันส่วนใหญ่มักจะย้ายฐานการผลิตมาที่อาเซียนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ไต้หวันเองยังเตรียมปรับยุทธศาสตร์เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าไฮเทคแบบพรีเมี่ยมอีกด้วย
เศรษฐกิจของไต้หวันในช่วงหลังไตรมาส 2 ที่ผ่านมาดูดีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไตรมาส 3 นั้นรัฐบาลรายงานตัวเลข GDP อยู่ที่ 2.91% มากกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.5% ขณะเดียวกันปริมาณการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นๆ หลายประเทศที่ได้รับพิษสงจากสงครามการค้า
ที่มา – Macau Daily Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา