Synnex ชี้กระแส iPhone 15 ดีกว่ารุ่นก่อน เหตุดีลเลอร์สั่งซื้อตามคาดการณ์ เผยเศรษฐกิจซบไม่เกี่ยว เพราะรุ่นก่อนหน้าที่ขายดีที่สุดคือ iPhone 14 Pro Max หวังยอดขายจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือช่วยดันรายได้รวมปี 2023 เท่าปี 2022 หรือราว 39,000 ล้านบาท ลดลงจากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 40,000 ล้านบาท
Synnex มองกระแส iPhone 15 ดีต่อเนื่อง
สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) เล่าให้ฟังว่า หากอ้างอิงจากคำสั่งซื้อของดีลเลอร์กับสินค้า iPhone 15 สมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวมีผลตอบรับดีกว่า iPhone 14 เล็กน้อย เนื่องจากคำสั่งซื้อจากดีลเลอร์เป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ โดย Synnex เป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple ในไทย
“เรามองว่ากระแส iPhone 15 ยังดีอยู่ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ผ่านการที่ดีลเลอร์ซื้อสินค้าตามที่เราคาดการณ์ และการที่ตัวสินค้าต้องจำหน่ายในไทยเร็วขึ้น ทำให้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2023 เวลา 14.00 น. ก็จะตัดรอบในการกระจายสินค้าให้กับดีลเลอร์ต่าง ๆ”
สำหรับ iPhone 14 รุ่นที่จำหน่ายดีที่สุดคือ iPhone 14 Pro Max ส่วนรุ่นที่จำหน่ายได้น้อยที่สุดคือ iPhone 14 แสดงให้เห็นถึงกลุ่มผู้ใช้งาน iPhone ที่กล้าจ่ายเงินในราคาสูงเพื่อซื้อรุ่นสูงที่สุด และมีโอกาสที่ iPhone 15 จะเกิดการซื้อในรูปแบบเดียวกัน
รอรับลูกนโยบายรัฐฝั่งที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
นอกจากสินค้า iPhone ทาง Synnex ยังมีปัจจัยการเติบโตทางธุรกิจผ่านการเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ไล่ตั้งแต่โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ผู้ใช้งานอาจต้องมีโทรศัพท์มือถือ รวมถึงโครงการแจกแท็บเล็ตให้กับครูทั่วประเทศไทย
“รัฐบาลใหม่นี้จัดตั้งค่อนข้างช้า ทำให้งบประมาณที่ควรจะนำมาใช้จ่ายออกมาช้าเช่นกัน ผ่านการที่ไม่มีใครยอมเซ็น และกว่าจะออกมาจริง ๆ น่าจะต้องรอไตรมาส 1 ปี 2024 แต่ด้วย Synnex จำหน่ายสินค้าไอทีหลากหลายแบรนด์ ครอบคลุมทุกประเภท เราก็พร้อมร่วมมือกับดีลเลอร์ และเวนเดอร์ในการทำตลาดเพื่อรองรับนโยบายต่าง ๆ”
นอกจากรอนโยบายรัฐ Synnex ยังเตรียมทำตลาดสินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับกระแส ESG ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ และการร่วมมือกับแบรนด์ Delta เพื่อจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในอนาคตกลุ่มธุรกิจนี้จะเริ่มมีสัดส่วนรายได้อย่างมีนัยสำคัญ
ตั้งเป้ารายได้ใกล้เคียงปี 2022
ด้วยไตรมาส 2 ปี 2023 เป็นช่วงที่รายได้ต่ำที่สุดในรอบปี ผ่านปัจจัยลบต่าง ๆ ทำให้ Synnex ตัดสินใจปรับเป้าหมายจากเดิมตั้งเป้ารายได้ปี 2023 ที่ 40,000 ล้านบาท เหลือ 39,000 ล้านบาท เท่ากับปี 2022 มาจาก ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ 40% ธุรกิจคอนซูเมอร์ (คอมพิวเตอร์ และอื่น ๆ) 40% และธุรกิจลูกค้าองค์กร 20%
ล่าสุด Synnex จัดงานประชุมใหญ่พาร์ตเนอร์ โดยภายในงานมีการรวบรวมสินค้าต่าง ๆ จากเวนเดอร์หลายแบรนด์ให้ดีลเลอร์ได้รับรู้ โดยตั้งเป้าภายในงานจะมีเงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท มากกว่าปี 2022 ที่ปิดราว 300 ล้านบาท และหลังจากนี้จะมีแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการซื้ออย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Synnex อยู่ระหว่างเดินหน้าทำตลาดสินค้าเกี่ยวกับเกมเต็มรูปแบบ เพื่อชิงแชร์ในตลาดรวมสินค้าเกี่ยวกับเกมในไทย 75,000 ล้านบาท และส่วนนี้แบ่งเป็น Gaming Hardware 15,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน Synnex ถือสิทธิ์ตัวแทนจำหน่าย Nintendo Switch และ Razer เพียงรายเดียวในไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา