Super Luxury Condominium ยังป๊อบ ปีหน้าเห็น 4.5 แสนบาท/ตร.ม. แน่

ในทุกประเทศที่เจริญแล้ว คำว่าวิถีคนเมืองจะเข้าไปแทรกซึมโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่เรื่องชื่นชอบสิ่งอำนวยความสะดวก, การเดินทางต้องรวดเร็ว และที่พักอาศัยต้องเป็นมากกว่าแค่ที่นอน ดังนั้น Condominium จึงตอบโจทย์เรื่องนี้

ซึ่งผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครก็เริ่มใช้วิถีคนเมืองมากขึ้น (ตามไปอ่านได้ที่นี่) ดังนั้นคงไม่แปลกที่ Condominium จะผุดเป็นดอกเห็น และกลุ่ม Super Luxury ก็ราคาพุ่งไปถึง 4.5 แสนบาท/ตร.ม

ราคาไม่ต้องคุยกัน ขอทำเลแจ่ม ตอบไลฟ์สไตล์

นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บอกว่า Condominium ระดับ Super Luxury หรือที่รู้จักกันในชื่อ Hi-End นั้น ราคาจะสูงกว่า 2.5 แสนบาท/ตร.ม. ขึ้นไป และในปีหน้าน่าจะเห็นการเปิดตัว Condominium ที่ราคาสูงกว่า 4.5 แสนบาท/ตร.ม. ด้วย ที่สำคัญคือราคาระดับนี้ก็ขายได้ เพราะกลุ่มผู้ซื้อไม่ได้มองที่ราคา แต่มองเรื่องทำเลที่ตั้งดี สามารถอยู่เอง หรือปล่อยเช่าได้ รวมถึงต้องใกล้เคียงกับความเป็นบ้านอีกด้วย

“กลุ่มผู้ซื้อ Super Luxury แทบทุกคนมีบ้านหลังแรกมาแล้ว ดังนั้นหากจะซื้อหลังที่สองเขาจะมองยาวๆ ตั้งแต่ไว้อยู่เองเพื่อความสะดวก หรือเก็บไว้ลงทุนปล่อยเช่า และแนวโน้มของ Condominium กลุ่มนี้ก็มีโอกาสเติบโตในปีหน้าด้วย เพราะปีนี้ก็มี 98 Wireless ที่มีราคาต่อตร.ม. สูงถึง 7 แสนบาทออกมา และก็ขายได้ด้วย ที่สำคัญกลุ่มคนที่ซื้อ Condominium ระดับนี้ ไม่ใช่แค่คนไทย แต่ยังมีชาวต่างชาติที่หวังซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าด้วย ดังนั้นต้องรอดูกันว่าปีหน้ากลุ่มนี้จะคึกคักกันมากขนาดไหน”

นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

Condominium โดยรวมราคายังพุ่ง 14%

สำหรับภาพรวมตลาด Condominium ในกรุงเทพมหานครปีนี้จะไม่ค่อยคึกคักมากนัก สังเกตจากช่วงไตรมาส 4 ผู้พัฒนาโครงการชะลอการเปิดตัวออกไปเพื่อรอกำลังซื้อในปี 2560 แทน จึงมี Condominium เปิดใหม่ในปีนี้เพียง 40,000 Unit จาก 94 โครงการ โดยทำเลที่เปิดตัวมากที่สุดคือ พระโขนง – สวนหลวง จำนวน 10,700 Unit ส่วนฝั่งยอดขายจะมีทั้งสิ้น 46,100 Unit น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 51,200 Unit แต่มีราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 14% เป็น 1.21 แสนบาท/ตร.ม. จากเดิม 1.06 แสนบาท

นอกจากนี้ราคา Condominium กลางเมืองยังมีราคาสูงกว่า 1.5 แสนบาท/ตร.ม. แล้ว เนื่องจากราคาต้นทุนที่ดินสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนในการพัฒนาโครงการเช่นกัน ซึ่งปัจจัยนี้ก็เกิดกับ Condominium ที่ขยับออกจากในกลางเมืองเล็กน้อยด้วย เช่นดินแดง, พลโยธิน, พระโขนง และประชาชื่น เพราะบางแห่งมีรถไฟฟ้าพาดผ่าน และเริ่มมีความเป็นเมืองกระจายออกไปแล้ว ดังนั้นเมื่อง Condominium ราคาสูงขึ้นทุกที่ ผู้พัฒนาโครงการก็เริ่มมีแผนการขายแบบการันตีผลตอบแทน เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มนักลงทุนมากขึ้นเช่นกัน

ไมใช่แค่ Condominium บ้านแนวราบก็ขึ้น

ในทางกลับกัน ไม่ได้มีแต่ Condominium ที่ราคาสูงขึ้น แต่ตลาดบ้านแนวราบก็เป็นอีกส่วนที่ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะกับบ้านเดี่ยวราคา 5 – 10 ล้านบาท ที่มีการเดินทางเข้าเมืองสะดวก รวมถึงกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทรอบเมืองเช่นกัน แต่ก่อนจะซื้อได้ ต้องรอความเคลื่อนไหวของหนี้ครัวเรือน และความสามารถในการกู้เงินของผู้ซื้อก่อน เพราะหากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น สถาบันการเงินก็จะปล่อยกู้ยากขึ้น และการซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็จะไม่สามารถสร้างกำไรได้

สรุป

สังคมเมืองเริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้บริโภคมากขึ้น ดังนั้นคงไม่แปลกที่ Condominium จะผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องดูเรื่องความต้องการซื้อด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุน เพราะผู้เช่าอาจยังมีไม่มากพอ และเป็นการลงทุนที่ศูนย์เปล่า แต่เรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับกลุ่ม Super Luxury

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา