เมื่อเอ่ยชื่อของ “บางแสน21” ในวงการวิ่ง วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ชื่องานวิ่งบนชายหาดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีอีกต่อไป แต่คือสัญลักษณ์ของงานวิ่งมาตรฐานโลกระดับ “Platinum Label” รายแรกของโลก และรายเดียวในประเทศไทยที่ยืนหยัดเคียงข้างสนามระดับ Platinum (World Marathon Majors & Others) ที่เป็นตำนานอย่าง Boston, Berlin, Tokyo Marathon, Marathon Chicago ฯลฯ อย่างเต็มภาคภูมิ
เมื่อก้าวแรกของทศวรรษผ่านไปด้วยผลความสำเร็จอย่างสูงสุด “รัฐ จิโรจน์วณิชชากร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ในฐานะ Race Director ผู้ปลุกปั้นแบรนด์งานวิ่งบางแสน ได้เปิดเผยกับ Brand Inside ถึงโรดแมปใน “ทศวรรษที่ 2” ที่ท้าทายยิ่งกว่าเดิม ด้วยการเปลี่ยนผ่านจากผู้จัดงานวิ่งที่ไม่ใช่เฉพาะแค่เมืองไทยเท่านั้น แต่หวังไปไกลให้เป็นงานวิ่งเป็นระดับ World Destination ที่คนทั่วโลกต้องมาวิ่งให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต พร้อมยกระดับงานวิ่งในไทยให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ระดับโลก ภายใต้ชื่อใหม่ “บางแสนซีรีส์” (Bangsaen Series)
สร้างบางแสนซีรีย์ สู่เป้าหมาย “Once in a Lifetime”
รัฐ เล่าให้ฟังความสำเร็จในช่วง 10 ปีแรก ที่ทำให้งานวิ่งบางแสน ทั้ง บางแสน10, บางแสน21 และบางแสน42 กลายเป็นงานวิ่งระดับโลก เพราะเราสร้าง “มาตราฐาน” ที่นักวิ่งทั่วโลกยอมรับ นั้นก็คือ มาตรฐาน Platinum Label จาก สหพันธ์กรีฑาโลก หรือ World Athletics ของการเป็นงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอน แพลทินัม เลเบล รายแรกของโลก และเป็นรายเดียวในไทย ส่วนสำหรับ 10 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ เรามองเรื่องของงานวิ่งว่าจะทำอย่างไรให้งาน บางแสน21 เป็น “หมุดหมายที่นักวิ่งทั่วโลกต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต” โดยเราจะนำบางแสนซีรีย์ และประเทศไทยไปเชื่อมสู่มาราธอนโลก ผ่านทางเครือข่ายนักจัดงานวิ่งระดับโลก
“เราเซ็นต์สัญญาร่วมกับงาน Gifu Half Marathon เป็นปีที่สามแล้ว เพราะเราเข้าใจถึงพฤติกกรมของคนไทยที่ชอบไปญี่ปุ่น และคนญี่ปุ่นก็ชอบมาเมืองไทย เราจึงใช้ “งานวิ่ง” เป็นตัวเชื่อม (Connector) เพื่อเปลี่ยนจากการมาเที่ยว อย่างเดียว มาเป็นวิ่งพร้อมกับท่องเที่ยว หรือที่เรียกว่า Sport Tourism ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ของโลกใหม่ ที่เข้ามาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของผู้คนให้เป็นแบบ (Purpose-led Tourism) ให้เป็น วิ่งเพื่อเที่ยวไปด้วยกันทั้ง 2 ประเทศ”
รัฐ มองว่า เทรนด์ของงานวิ่ง จะไม่ใช่แค่วิ่งอย่างเดียวเท่านั้น มันคือไลฟ์สไตล์ใหม่ของนักวิ่งยุคใหม่ นอกเหนือที่จะมาวิ่งแล้ว ยังนำพาคนในครอบครัว เพื่อนพี่น้อง มาก็สามารถออกไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยว สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการสร้างวงจรเศรษฐกิจที่ใหญ่และมั่นคงขึ้นให้กับเมืองที่จัดงาน และสุดท้าย หากเราสร้างเครือข่ายพันธมิตรงานวิ่งตามแต่ละประเทศต่างๆ ตั้งแต่ระดับอาเซียน: มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, สิงคโปร์ เอเชียตะวันออก: จีน, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, ไต้หวัน ,อินเดีย ตลาดยุโรป: สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง ที่ไทยเรามีจุดเด่นเป็นสยามเมืองยิ้ม ความมีอัธยาศัย การบริการที่ประทับใจ และอากาศที่เหมาะกับนักวิ่งที่ต้องการบินจากช่วงฤดูหนาวสุดติดลบ มารับแดดที่เมืองไทย และความตั้งใจอย่างแรงกล้าคือ การทำให้งานบางแสนซีรีย์ เป็นงานวิ่งในระดับ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” (Once in a Lifetime)
“เหมือนที่ผมยอมบิน 24 ชั่วโมง เพื่อไปวิ่งในงาน Boston Marathon ในฐานะที่เป็นสนามเก่าแก่ที่สุดในโลก ดังนั้น บางแสนซีรีย์ เราอาจสู้ด้วยความเก่าแก่ไม่ได้ แต่เราจะสู้ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าเป็น “งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่แสนสุขที่สุด” ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะมีการสื่อสารออกไปภายใต้แบรนด์ใหม่คือ “บางแสนซีรีส์(Bangsaen Series) ในปี 2569 ข้างหน้านี้ แทนชื่อเดิม ได้แก่ บางแสน10, บางแสน21 และ บางแสน42”
สร้าง Ecosystem ผ่าน Asia Road Race Forum (ARF)
รัฐ ไม่ได้มองเพียงแค่การจัดงานของตัวเองให้ดี แต่เขากำลังสวมหมวกของผู้สร้างอุตสาหกรรม ผ่านเวที Asia Road Race Forum (ARF) ซึ่งเป็นศูนย์รวมผู้จัดงานวิ่งระดับโลกจากกว่า 10 ประเทศ
“เราต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของความรู้ด้านการจัดงานวิ่งในเอเชีย เวทีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา แต่มันคือเรื่องของ Marketing, Technology และ Sustainability เราดึงเอาวิทยากรจากสนามระดับโลกมาแชร์ความรู้ เพื่อยกระดับผู้จัดงานในภูมิภาคให้เติบโตไปด้วยกัน”
จากการเริ่มต้นที่มีผู้เข้าร่วมเพียง 50 คน สู่ปีที่ 4 ที่มีผู้จัดงานระดับสากลเข้าร่วมกว่า 150 คน สะท้อนให้เห็นว่าไทยกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมวิ่งของเอเชียอย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้ รัฐ ตั้งใจว่าในปี 2569 เราเตรียมแผนจัดงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอน หาดใหญ่21 แบบ Sport Tourism โดยมีเป้าหมายต้องการฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่หลังประสบภาวะวิกฤตน้ำท่วม ด้วยการวิ่งของนักวิ่งภาคใต้ และ มาเลเซีย เพื่อจะอาศัยพลังของโซเชียลมีเดียของนักวิ่งช่วยกันกระจายภาพว่า “เมืองกลับมาปกติแล้ว” ผ่านการกิน การเที่ยว และพักแรม เป็นต้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา