แบรนด์ Subway หรือร้านแซนด์วิชชื่อดังที่รู้จักกันอย่างดี กลายเป็นแบรนด์ที่มีแฟรนไชส์สาขามากที่สุดในโลก เบียดแบรนด์ดังๆ อย่าง McDonald’s และ Starbucks ไปได้
เมื่อปีแล้วทาง Subway ได้ประกาศถึงทิศทางของแบรนด์ด้วยการรีโนเวท รีดีไซน์ร้านครั้งใหญ่ในคอนเซ็ปต์ Fresh Forward พร้อมกับ CEO คนใหม่นั่นก็คือ Suzanne Greco น้องสาวของ Fred DeLuca ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Subway นั่นเอง
มาดูที่จำนวนสาขากันบ้าง ในปี 2017 Subway มีสาขาทั่วโลกอยู่ที่ 43,912 สาขา ตามมาด้วยอันดับที่สองคือ McDonald’s จำนวน 37,241 สาขา ส่วน Starbucks อยู่อันดับที่สามด้วยจำนวน 27,339 สาขา
ตัวเลขดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งกับสภาวะทางเศรษฐกิจด้วยซ้ำ ในขณะที่ McDonald’s และ Starbucks มียอดขายเติบโตขึ้นทุกปี แต่สำหรับ Subway กลับมียอดขายที่ลดลงมาตลอด 5 ปีตั้งแต่ปี 2014 และมีทราฟิกเข้าร้านลดลง 7.6% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีรายงานจาก Technomic บริษัทวิจัยทางการตลาดของอุตสาหกรรมอาหาร ได้บอกว่าเริ่มได้เห็น Subway ทยอยปิดสาขากว่า 350 แห่งในปี 2016 มากกว่า 800 สาขาในปี 2017 และคาดว่าอีกกว่า 500 สาขาในปี 2018
ถ้าถามว่าเหตุใด Subway ถึงมียอดขายลดลง สวนทางกับจำนวนสาขาที่มากมายมหาศาลขนาดนี้
มีนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมอาหารได้ชี้แจงว่า เหตุผลหลักๆ ก็คือ Subway ขาดนวัตกรรมใหม่ๆ ในขณะที่อีก 2 แบรนด์ McDonald’s และ Starbucks มีการตื่นตัว ออกนวัตกรรมใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ รวมถึงพัฒนารูปแบบร้าน การใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้รับกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค
แต่ Subway มีการขยับตัวที่เชื่องช้ามากกว่าเพื่อน เพิ่งจะมีการประกาศถึงแผนรีเฟรชแบรนด์ รีดีไซน์ร้านค้าใหม่ในแบบ Fresh Forward ก็เป็นครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปีเข้าไปแล้ว ไม่ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้
จึงกลายเป็นการบ้าน และความท้าทายอย่างหนักของ CEO คนใหม่ที่จะกอบกู้วิกฤติของ Subway ให้กลับมาได้อย่างไร ยิ่งการแข่งขันในธุรกิจอาหารสูงขึ้นเรื่อยๆ พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ Subway จะอยู่เฉยๆ หวังครองสถิติสาขามากที่สุดในโลก แต่ยอดขายลดลงทุกปีก็คงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา