startup เบ่งบานในบ้านเรามาได้เกือบ 5 ปีแล้ว และเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจนในการแบ่งเฉพาะแยกไปตามอุตสาหกรรม เพื่อจับกลุ่มลูกค้าและสร้างการเติบโตทางธุรกิจของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมแรกๆ ที่แยกตัวออกมาอย่างชัดเจนมาก คือ FinTech หรือ สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีการเงิน
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มี FinTech ในสายวิเคราะห์การลงทุน มีการกล่าวถึงกันหลายราย เช่น StockRadars, Jitta, Finnomena หรือ AVA ซึ่งวิเคราะห์ทั้งหุ้นและกองทุน และครั้งนี้ Brand Inside จะพามารู้จักกับ StockQuadrant พูดได้ว่าเป็น FinTech น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวก็จริง แต่ถ้าดูย้อนไป ต้องบอกว่าไม่ใหม่ เพราะมีประวัติที่ยาวนานมาหลายปีแล้ว
StockQuadrant วิเคราะห์ได้แตกต่างครบทั้ง 4 มิติ
นเรศ เหล่าพรรณราย Co-Founder ของ StockQuadrant และเป็นคอลัมนิสต์ประจำของ Brand Inside (อ่านบทความน่าสนใจย้อนหลัง คลิกที่นี่) บอกว่า ตามปกติระบบที่ทำหน้าที่วิเคราะห์หุ้น จะมี 2 ประเภทหลัก คือ สายพื้นฐาน คือ วิเคราะห์หุ้นพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโต หรือ สายเทคนิค โดยวิเคราะห์ตามเทคนิคต่างๆ ที่มีการคิดค้นขึ้นมา ซึ่งแต่ละระบบจะเป็นทางใดทางหนึ่งชัดเจน
แต่สำหรับ StockQuadrant สามารถวิเคราะห์หุ้นได้ทั้ง 1. สายพื้นฐาน และ 2. สายเทคนิค ไปพร้อมกัน และยังนำไปสู่ 3. เกมรุก วางกลยุทธ์เพื่อซื้อขายหุ้น ตามด้วย 4. เกมรับ คือ การบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเหตุนี้ StockQuadrant จึงเป็นระบบที่วิเคราะห์หุ้นได้ 4 มิติ
และทั้งหมดใช้สูตรการวิเคราะห์ของ “กระทรวง จารุศิระ” Co-Founder อีกคน ที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี ซึ่งเป็นนักลงทุนทั้ง Venture Investor และ Day Trade ตัวจริง ถ้าใครที่อยู่ในแวดวงหุ้น รับรองว่าต้องรู้จัก
จุดเริ่มต้น StockQuadrant ความลงตัวของ 3 ประสาน
กระทรวง บอกว่า การลงทุนในหุ้นไม่ควรเลือกเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี หรือหุ้นเทคนิคดี แต่ควรต้องดูทั้ง 2 อย่างควบคู่ไปด้วยกัน เพราะหุ้นพื้นฐานดี ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องซื้อ หรือหุ้นเทคนิคดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีพื้นฐานที่ดี ถ้าสามารถวิเคราะห์ได้ทั้ง 2 อย่าง จะทำให้การลงทุนมีความสมดุลและสมบูรณ์มากขึ้น
จากจุดเริ่มต้นนี้ ทำให้เกิด 3 ประสาน คือ กระทรวง ผู้ออกแบบสูตรการวิเคราะห์ ที่ถือเป็นจุดขายของ StockQuadrant และเชื่อว่าจะสร้างมิติใหม่ให้กับวงการหุ้น ตามด้วย นเรศ ที่ทำงานด้านข่าวและข้อมูลในตลาดหุ้นเป็นเวลามากกว่าสิบปี และ ธนศักดิ์ พละศักดิ์ Co-Founder คนที่ 3 เป็นโปรแกรมเมอร์ที่สามารถถอดรหัสสูตรวิเคราะห์ แล้วพัฒนาออกมาเป็น StockQuadrant ได้สำเร็จ
“หุ้นพื้นฐานดี ถ้าราคาสูงก็ไม่ใช่หุ้นที่น่าซื้อ ดังนั้น StockQuadrant จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำกับนักลงทุน เพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สูตรวิเคราะห์ที่เป็นเฉพาะตัวของ StockQuadrant ไม่ได้จำกัดใช้แค่สำหรับหุ้นไทยเท่านั้น แต่สามารถใช้วิเคราะห์หุ้นอื่นๆ ได้ทั่วโลก นี่คือ ความแตกต่าง
ใช้แนวคิดแบบเอสเอ็มอี มีรายได้ เตรียมระดมทุนเพื่อขยายตลาด
วิถีทางของ startup ในบ้านเราส่วนใหญ่คือ คิดสินค้าหรือบริการ แล้วหาทางระดมทุนเพื่อทำตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง แต่สำหรับ StockQuadrant เป็น startup ที่ใช้แนวคิดของเอสเอ็มอี นั่นคือ สามารถหารายได้ด้วยตัวเอง และใช้การระดมทุนเพื่อ scale up ตลาด
นเรศ บอกว่า นักลงทุนที่อยากใช้โปรแกรม StockQuadrant จะต้องเสียค่าสมาชิกรายปี โดยคิดค่าสมาชิก 12,000 บาทต่อปี สำหรับการใช้งานโปรแกรม หรือจะเลือก 18,000 บาทต่อปี สำหรับการใช้งานโปรแกรมและค่าฝึกอบรม เพื่อให้เข้าใจแนวทางการใช้งานของ StockQuadrant
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ถึงวันนี้มีนักลงทุนซื้อ StockQuadrant ไปแล้วกว่า 1,000 คน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก
“StockQuadrant ไม่ใช่ของฟรี นี่คือองค์ความรู้ที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว ฐานลูกค้าคือ จำนวนผู้ที่สนใจสูตรการวิเคราะห์หุ้นของกระทรวงที่มีกว่า 15,000 คน และจำนวนผู้สมัครแข่งขันซื้อขายหุ้นในโครงการ Super Trader ที่มีกว่า 3,000 คน จากการแข่งขัน 3 seasonและจะมีเพิ่มอีกในอนาคต”
อนาคต StockQuadrant เตรียมเปิดกองทุน
นเรศ บอกว่า ปัจจุบัน StockQuadrant ให้บริการผ่านเว็บเบส หรือเปิดกับเว็บบราวเซอร์ และเตรียมจะพัฒนาเป็นแอปพลิเคชั่น ซึ่งกลุ่มนักลงทุนที่เหมาะจะมาใช้งาน ควรเป็นคนที่มีความรู้เรื่องการลงทุนอยู่บ้างเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ
แต่ภายใน 1-2 เดือนนี้ StockQuadrant เตรียมร่สมกับโบรกเกอร์ตั้งกองทุน เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจซื้อกองทุนที่ใช้สูตรการวิเคราะห์การลงทุนแบบ StockQuadrant แต่ไม่มีเวลาติดตามดูหุ้นด้วยตัวเอง สามารถลงทุนผ่านกองทุนได้ ต้องติดตามว่าจะออกมาหน้าตาอย่างไร
อีกบริการคือ System Trade โดยจะสร้างระบบการซื้อขายหุ้นโดยใช้สูตรการวิเคราะห์ของ StockQuadrant เช่นกัน จะตามมาแน่นอนในอนาคต
สำหรับเป้าหมายในอนาคต ทีม StockQuadrant บอกว่า อยากให้วิธีการวิเคราะห์หุ้นในแบบ StockQuadrant เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ StockQuadrant ได้เปิดบริษัทในสิงคโปร์และเริ่มเดินหน้าการทำธุรกิจเรียบร้อยแล้ว การได้ร่วมมือกับโบรกเกอร์ในสิงคโปร์ จะเป็นใบเบิกทางสำคัญไปสู่ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก
ไม่แน่ว่า StockQuadrant อาจเป็น FinTech ไทยที่บุกไปให้บริการได้ทั่วโลกสำเร็จเป็นรายแรกก็ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา