บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีแผนที่จะเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้ โดย IPO นี้ผู้ถือหุ้นเดิมนำหุ้นออกมาขายให้กับนักลงทุนสัดส่วนไม่เกิน 31%
บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (STGT) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ได้เตรียมที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 444.780 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 31% โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้
โดยบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่สุดในไทย และยังมีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก สำหรับธุรกิจของบริษัทนั้นประกอบไปด้วย
- ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติ (Latex Glove) ประกอบด้วยถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง (Latex Powdered Glove) และถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง (Latex Powder Free Glove)
- ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางไนไตรล์ (Nitrile Glove) ที่ผลิตจากน้ำยางสังเคราะห์ เพื่อใช้ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมต่างๆ
บริษัทยังรายงานว่าสิ้นปี 2019 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 27,153 ล้านชิ้นต่อปี จากโรงงาน 3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี และตรัง และอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตติดตั้งเป็นประมาณ 32,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปีนี้ โดยสินค้าของบริษัทได้ส่งออกไปถึง 95 ประเทศ
ปัจจัยการเติบโตของบริษัทมาจากอุตสาหกรรมการแพทย์และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยของผู้บริโภคทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง อาทิ ทวีปเอเชียตะวันออก ทวีปเอเชียใต้ ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาใต้ ฯลฯ ขณะเดียวกันบริษัทยังมองว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 เองก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความต้องการถุงมือยางเพิ่มขึ้นด้วย
หลังจาก IPO แล้วนั้นบริษัทจะนำเงินระดมทุนที่ได้ไปขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตถุงมือยาง ลงทุนติดตั้งระบบ SAP ชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน รวมไปถึงใช้เป็นเงินหมุนเวียนในกิจการ
ในปี 2019 ที่ผ่านมา ศรีตรังโกลฟส์ มีรายได้รวม 12,224 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 613.91 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัทคือ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ถือหุ้นในสัดส่วน 73.2% โดยหลังจาก IPO จะลดสัดส่วนลงมาถือหุ้นเหลือ 50.7%
ที่มา – ประชาชาติธุรกิจ, efinancethai
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา