Stellantis อาจพิจารณาขาย Alfa Romeo และ Maserati หลังรับผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ

ภายใต้แรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้น กลุ่ม Stellantis ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลกกำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญ ล่าสุดมีรายงานว่าอาจพิจารณาขายแบรนด์รถยนต์หรูอย่าง Alfa Romeo และ Maserati หลังได้รับผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

Stellantis

ยอดขายดิ่งหนัก กระทบศักยภาพการฟื้นตัว

สำนักข่าว Motor 1 รายงานว่า ปี 2024 ถูกคาดหมายว่าจะเป็นปีแห่งการฟื้นฟูกิจการของ Stellantis หลังยอดขายและรายได้หดตัวต่อเนื่อง จนนำไปสู่การลาออกอย่างกะทันหันของอดีตซีอีโอ Carlos Tavares อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้อัตราภาษีนำเข้าที่สูงถึง 25% ต่อสินค้ายานยนต์จากต่างประเทศโดยสหรัฐฯ ได้ซ้ำเติมสถานการณ์ของบริษัทให้ยิ่งเลวร้ายลง โดยเฉพาะแบรนด์ที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากยุโรปอย่าง Alfa Romeo และ Maserati

รายงานจาก Automotive News Europe ระบุว่า Stellantis ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ McKinsey & Company เข้ามาศึกษาสถานการณ์ของ Alfa Romeo และ Maserati โดยเน้นการวิเคราะห์ผลกระทบจากภาษีนำเข้าในตลาดสหรัฐฯ แม้ว่าบริษัทจะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึก แต่การดึง McKinsey เข้ามามีบทบาทสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาที่กำลังเผชิญ

ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า Alfa Romeo มียอดขายในสหรัฐฯ เพียง 8,865 คันในปี 2024 ลดลง 19% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ Maserati มีผลงานแย่ยิ่งกว่า โดยมียอดขายทั่วโลกเพียง 11,300 คัน และในสหรัฐฯ เพียง 4,819 คัน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ส่งสัญญาณเตือนว่าแบรนด์กำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

อาจเป็นแบรนด์ยุโรปอีกรายที่เข้าสู่มือจีน

ขณะเดียวกัน การบังคับใช้อัตราภาษีนำเข้าใหม่อย่างน้อย 25% สำหรับรถยนต์ที่นำเข้าทั้งหมดในสหรัฐฯ กำลังสร้างผลกระทบเชิงลึกต่อกลยุทธ์ระยะยาวของ Stellantis เนื่องจากปัจจุบัน Maserati และ Alfa Romeo ยังไม่มีสายการผลิตในสหรัฐฯ ทั้งหมดต้องนำเข้า 100% ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในเบื้องต้น มีการหารือถึงทุกทางเลือก ทั้งการหาพันธมิตรร่วมทุน การลดขนาดธุรกิจ หรือแม้แต่การขายแบรนด์ออกไป รายงานจาก Automotive News Europe ยังระบุว่ามีการพิจารณาความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในเอเชีย ซึ่งคาดว่า อาจรวมถึงกลุ่มทุนจีนที่กำลังมองหาโอกาสเข้าซื้อแบรนด์หรูจากยุโรปในราคาที่น่าสนใจ

แม้ว่า Alfa Romeo จะมีโครงการพัฒนารุ่นใหม่ของ Stelvio และ Giulia ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027 แต่หากสภาวะตลาดยังคงถูกกดดันจากภาษีนำเข้าสูง การดำเนินการพัฒนาเหล่านี้อาจต้องถูกทบทวนใหม่ ขณะที่ Maserati ได้ยกเลิกแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MC20 EV ไปแล้ว ท่ามกลางกระแสความไม่แน่นอนของตลาด และการคงภาษีนำเข้าระดับสูงไว้ในระยะยาว อาจส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างต่ออุตสาหกรรมยานยนต์หรูทั้งระบบอีกด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา