ท่ามกลางการแข่งขันอุปกรณ์ Gaming Gear ที่เริ่มมีผู้ผลิตมากขึ้น สอดคล้องกับจำนวนนักเล่มเกมทั่วโลกที่ Newzoo คาดการณ์ว่าในปี 2027 มีจำนวนมากถึง 3.759 พันล้านคน จึงเป็นโอกาสที่ SteelSeries รุกขายอุปกรณ์ Gaming Gear ระดับพรีเมียม ในราคาจับต้องได้ เน้นกลุ่ม Gen Z เป็นหลักที่เริ่มมีกำลังซื้อ พร้อมยินดีจ่ายแพงเพื่อได้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เหนือกว่า
ชาคริต ศิริกุลประดิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย SteelSeries เปิดเผยถึงความท้าทายในการเปิดตัวสินค้า Gaming Gear ใหม่ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกถดทอย โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบต่อยอดจำหน่ายอยู่บ้าง แต่จำนวนผู้เล่นเกมหน้าใหม่ไม่ลดลงเลย ผลมาจากผู้เล่นเกมในฝั่งแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ด้วยตลาดเกมที่จีนมีผู้ผลิตสินค้า Gaming Gear เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยคุณภาพ เทคโนโลยี และการออกแบบยังสู้แบรนด์หลักระดับโลกยังไม่ได้
“ตลาดอุปกรณ์ Gaming ในไทยมียอดขายลดลงจากปัจจัยหลักๆ มีคู่แข่งในตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ใหม่ๆ จากจีนที่มีราคาถูก แต่เมื่อเหล่าเกมเมอร์ได้ลองใช้งานแล้วพบว่า ส่วนใหญ่จะไม่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องคุณภาพ และประสิทธิภาพในการใช้งานที่ยังหน่วง ด้วยตัวหูฟังที่อาจจะมีเสียงขาดหาย หรือเม้าส์มีการตอบสนองไม่รวดเร็ว
ทาง SteelSeries เป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นเรื่องซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์กับเกมที่เผยแพร่ในวงกว้าง ด้วยรุ่นก่อนหน้านี้ที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะจับตลาดกลุ่มนักเล่นเกมระดับโปร แต่ตอนนี้เราคำนึงถึงกลุ่ม Gen Z ช่วงอายุ 15-25 ปีที่เป็นนักเล่นเกมและต้องการสินค้ากลุ่ม Gaming Gear ที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพ และราคาจับต้องได้ เราเลยได้วางจำหน่ายหูฟัง และเม้าส์รุ่นใหม่ สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ที่ถูกกว่าเดิม แต่ประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยลงเลย”
ล่าสุด SteelSeries วางจำหน่าย Arctis Nova 3 Wireless หูฟังแบบครอบหูที่ตอบโจทย์นักเล่นเกมด้วยฟีเจอร์การปรับเสียงแบบเรียลไทม์ และปรับพรีเซทได้มากกว่า 200 รูปแบบ และเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือสัญญาณคลื่น 2.4GHz ในราคาโปรโมชันเพียง 3,990 บาท เมื่อซื้อผ่าน AIS Online Store จากราคาปกติ 4,490 บาท
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวเมาส์ไร้สาย Rival 3 Gen 2 Wireless และ Rival 3 Gen 2 ที่สามารถตอบสนองค่าความหน่วงในการคลิกเพียง 1.35 มิลลิวินาที (รุ่นมีสาย) และ 1.9 มิลลิวินาที (รุ่นไร้สาย) เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการความไวในการคลิก วางจำหน่ายแล้วในราคา 1,490 บาท สำหรับรุ่นมีสาย และ 2,190 บาทในรุ่นไร้สาย
หูฟังยังครองรายได้กว่า 70% ของบริษัท
ชาคริต เผยถึงพฤติกรรมการใช้ Gaming Gear ของนักเล่นเกมจะให้ความสำคัญกับตัวคีย์บอร์ด หรือเม้าส์เป็นอันดับแรก แต่เกมในยุคปัจจุบัน ที่มีความก้าวหน้าและพัฒนาระบบเสียงในเกมที่มีความเสมือนจริงมากขึ้น หูฟังจึงเป็นอุปกรณ์แรกที่นักเล่นเกมให้ความสำคัญ หากให้ลองจินตนาการจะพบว่า หากเราได้ยินเสียงว่าคู่แข่งเราอยู่ตำแหน่งไหน หูฟังจึงมีความสำคัญเป็นอันดับแรก และต่อจากนั้นมือที่ไว้บังคับเม้าส์ หรือควบคุมเกมอยู่คีย์บอร์ด ก็จะสั่งการตามมา
“SteelSeries เป็นบริษัทในเครือ GN ที่ทำอุปกรณ์ช่วยฟัง และหูฟังมานานกว่า 100 ปี มี Jabra เป็นอีกแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก จึงอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์นี้มาพัฒนาหูฟังที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการเล่นเกม จึงทำให้ชื่อชั้นของหูฟัง SteelSeries มีความโดดเด่น ในส่วนของไทยทำรายได้ให้บริษัทเรามากกว่า 70% เป็นหูฟัง ที่เหลือเป็นเม้าส์ คีย์บอร์ด และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา