SteelSeries ย้ำตลาด Gaming Gear ระดับพรีเมียมยังไปได้ เหตุผู้ซื้อยินดีจ่ายเพื่อชัยชนะ สวนทางเศรษฐกิจที่ยังไม่อำนวย เตรียมอัดงบลงอีเวนต์ และจุดขายเพิ่ม พร้อมเปิดตัวหูฟัง True Wireless ราคา 6,590 บาท จับตลาดแมส เผยสัดส่วนรายได้ในไทย 70% มาจากหูฟัง 30% มาจากเมาส์, คีย์บอร์ด และอุปกรณ์เสริม
Gaming Gear พรีเมียมยอดขายเติบโต
ชาคริต ศิริกุลประดิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย SteelSeries เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมตลาด Gaming Gear หรืออุปกรณ์สำหรับเล่นเกมในประเทศไทยยังไปได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงบน เพราะผู้ซื้อยินดีจ่ายเพื่อได้รับมาซึ่งชัยชนะ
“แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในไทย และประเทศอื่น ๆ ที่ดูแลจะยังทรง ๆ แต่ตัวสินค้า Gaming Gear ระดับพรีเมียมยังคงไปได้ดี” ชาคริต กล่าว โดยตลาดนี้ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนผ่านจากผู้บริโภคที่ใช้ Gaming Gear ระดับเริ่มต้น และเรียนรู้ถึงประโยชน์ของการใช้ จนกล้าตัดสินใจซื้อสินค้าระดับกลางถึงบนเพื่อตอบโจทย์การเล่นมากขึ้น
สำหรับ Gaming Gear ในตลาดปัจจุบันประกอบด้วย คีย์บอร์ด, เมาส์, หูฟัง และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ซึ่งมีทั้งแบรนด์สินค้าไอทีทั่วไปที่เข้ามาทำตลาด Gaming Gear, แบรนด์ที่ทำตลาด Gaming Gear โดยเฉพาะ และแบรนด์จากจีนราคาประหยัดที่เน้นทำตลาดกับกลุ่มเริ่มต้น
ฝั่งโมบายเริ่มช่วยขับเคลื่อนตลาดนี้
ชาคริต เสริมว่า จากก่อนหน้านี้ตลาด Gaming Gear ถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มเครื่องเกมคอนโซล และคอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบันด้วยภาพรวมอุตสาหกรรมเกมบนโทรศัพท์มือถือ หรือ Mobile Game มีการเติบโตอย่างชัดเจน สังเกตจากจำนวนผู้เล่นเกมที่มาจาก Mobile Game 50%, คอนโซล 30% และคอมพิวเตอร์ 20%
ทำให้ Gaming Gear ที่ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือได้ดีขึ้นจึงมียอดขายมากขึ้นเช่นกัน แต่สินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งานบนโทรศัพท์มือถือจำเป็นต้องตอบโจทย์การใช้งานในมิติอื่น ๆ เช่น ความบันเทิง และการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นด้วย
ล่าสุด SteelSeries จึงเปิดตัว Arctis GameBuds หูฟังในรูปแบบ True Wireless ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งการเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ และสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเกมคอนโซลได้ผ่านตัวส่งสัญญาพิเศษ แต่มีระบบตัดเสียง และปรับจูนเสียงได้ตามความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ จำหน่ายราคา 6,590 บาท ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2024
รายได้เริ่มมาจากฝั่งหูฟังเป็นหลัก
ชาคริต แจ้งว่า ปัจจุบัน SteelSeries มีสัดส่วนรายได้มาจากฝั่งหูฟังเป็นหลัก เช่น ในภูมิภาคที่ดูแลจะมีรายได้จากหูฟัง 70% และคียบอร์ด, เมาส์ กับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ 30% จากจุดเริ่มต้นที่คีย์บอร์ด และเมาส์จะมีสัดส่วน รวมถึงเป็นที่รู้จักกับผู้บริโภคทั่วไปมากกว่า
“SteelSeries เป็นบริษัทในเครือ GN ที่ทำอุปกรณ์ช่วยฟัง และหูฟังมานานกว่า 100 ปี มี Jabra เป็นอีกแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก จึงอาศัยความเชี่ยวชาญนี้มาพัฒนาหูฟังที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการเล่นเกม” ชาคริต กล่าว และบริษัทจะเน้นทำตลาดสินค้าในระดับกลางถึงบนเช่นเดิม ไม่มีการลดระดับลงไปชนกับแบรนด์ระดับเริ่มต้น
สำหรับภาพรวมการแข่งขันของสินค้า Gaming Gear ในประเทศไทยยังมีแบรนด์ต่าง ๆ ทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ SteelSeries ต้องลงทุนสนับสนุนงานอีเวนต์เกี่ยวกับเกม รวมถึงพัฒนาจุดขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อจูงใจผู้บริโภคจากคู่แข่งในตลาด
ปี 2023 SteelSeries ยอดขายโตเร็วสุดในโลก
Brand Inside พบว่า ในปี 2023 มีผู้เล่นเกมทั่วโลกกว่า 1,500 คน และเกมกลายเป็นสิ่งที่จะเข้ามาทดแทนความบันเทิงดั้งเดิม รวมถึงมีแนวโน้มเติบโตหลังจากนี้มากขึ้น ทำให้ SteelSeries ทำรายได้ให้กับกลุ่ม GN กว่า 2,602 ล้านโครนเดนมาร์ก หรือราว 12,555 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 16%
ถือเป็นการเติบโตสวนทางกับอุตสาหกรรมเกมที่ค่อนข้างนิ่งเมื่อเทียบกับช่วงโรคโควิด-19 ระบาดที่เวลานั้นทุกคนต้องอาศัยอยู่ในบ้าน และเกมกลายเป็นความบันทิงที่ทุกคนสนใจ ซึ่งจากการวางตัวในระดับพรีเมียมของ SteelSeries ยังทำให้แบรนด์เป็นหนึ่งในแบรนด์ Gaming Gear ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ (หูฟังที่ใช้งานในองค์กร) ที่ทำรายได้ให้กลุ่ม GN 7,463 ล้านโครนเดนมาร์ก รองลงมาเป็นกลุ่มธุรกิจเครื่องช่วยฟัง 6,802 ล้านโครนเดนมาร์ก และกลุ่มหูฟังผู้ใช้ทั่วไป (เช่น แบรนด์ Jabra) 1,253 ล้านโครนเดนมาร์ก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา