คุยกับไอติม พริษฐ์ เบื้องหลังความสำเร็จ StartDee ขึ้นแท่นแอพเรียนออนไลน์อันดับ 1

โควิดระบาดถือเป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้การเรียนออนไลน์เติบโตมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด แอพพลิเคชัน StartDee แอพที่มาช่วยเติมเต็มการเรียนการสอนให้กับผู้คนในช่วงที่ยากลำบากนี้ก็เติบโตอย่างโดดเด่นเช่นกัน

StartDee

พริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด ผู้ที่ขับเคลื่อนด้านการศึกษาและสังคมเพื่อให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นมาโดยตลอด เล่าถึงภาพรวมธุรกิจก่อนหน้านี้ของ StartDee ว่าเป็นแอพที่พยายามพัฒนาเนื้อหาการเรียนการสอนทั้งหมด เนื้อหาการเรียนการสอนครอบคลุมตั้งแต่ชั้น ป.4-ม.6 เนื้อหาหลักคือเลข วิทยาศาสตร์ อังกฤษ ภาษาไทย สังคม รวมทั้งเนื้อหานอกห้องเรียนที่เห็นว่าหลักสูตรปัจจุบันยังไม่ได้ครอบคลุม เช่นเรื่องการเมือง ความรู้เรื่องสุขภาพจิต เราต้องการให้เด็กเรียนด้วยความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียน ไม่ใช่แค่การจำสูตร

เราพยายามทำให้ห้องเรียนเหมือนห้องสมุด อยากเรียนนานหรือเรียนสั้นก็แล้วแต่ความพอใจของนักเรียน ปัจจุบันมีคลิปการเรียนการสอน 10,000 คลิป มีแบบฝึกหัดการเรียนการสอน 40,000 ข้อ จากการที่ฟังฟีดแบครายคลิปจากนักเรียนที่เข้ามาใช้ พบว่า ไม่ว่าอย่างไร เนื้อหาไม่มีทางเพียงพอ เด็กเข้ามาแต่ละคนก็มีข้อสงสัยแตกต่างกัน เรามีระบบค้นหาข้อมูลที่นักเรียนหาข้อมูลหลากหลายมาก เด็กๆ อยากได้แบบฝึกหัดเพิ่มขึ้น อยากได้เนื้อหาเพิ่มขึ้น เนื้อหาการเรียนการสอนไม่มีวันพอ การเรียนรู้ไม่มีขีดจำกัดจริงๆ

เด็กมีความต้องการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน บางคนเข้ามาเรียนยาวเป็น 1-2 ชั่วโมง บางคนเข้ามาวันละ 10-20 นาที บางคนเข้ามาเฉพาะเนื้อหาที่ต้องการอยากเรียนรู้ เราเห็นว่ามีการเรียนรู้ต่างกันมาก เราจึงออกแบบ Personalize Learning หรือการเรียนรู้เฉพาะบุคคล พูดง่ายๆ ถ้าเข้ามาอยากเรียนจากวิดีโอก็มีให้ดู หรืออยากทำแบบฝึกหัดเราก็มีให้ เราพยายามออกแบบรูปแบบให้หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการของผู้เรียน

 Start Dee

พริษฐ์ ระบุว่า ยิ่งการเรียนรู้สร้างความเพลิดเพลิน สนุก ก็จะทำให้คนอยากเรียนมากขึ้น เราจึงออกแบบ Gamification เช่น เรียนไปแล้วมีการเก็บเรียน เรียนไปแล้ว สัตว์เลี้ยงของเราจะมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ถ้าตั้งเป้าแล้วไม่ยอมเข้ามาเรียนจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอลง จะเห็นว่าเด็กมีความต้องการหรือแรงจูงใจที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและทำให้เกิดความมั่นใจในเนื้อหามากขึ้น

เคยมีนักเรียนคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนที่จะเรียน StartDee ไม่กล้ายกมือถามคำถามในห้องเรียน เพราะว่ากลัวตอบไม่ดี แต่เมื่อได้มาเรียนกับ StartDee ไม่เข้าใจเนื้อหา ก็มั่นใจที่จะมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น ความท้าทายสำหรับธุรกิจออนไลน์ที่ต้องรับมือมีสามเรื่องใหญ่ๆ ดังนี้

ต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์คุณภาพ

พริษฐ์มองว่าสิ่งแรกคือระยะเวลาในการพิสูจน์คุณภาพอาจจะนานกว่า ไม่เหมือนการทานอาหารแล้วรู้เลยว่าอร่อยหรือไม่ แต่การเข้ามาเรียนใน StartDee ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อเรียน เพื่อดู เพื่อสัมผัสได้ว่าสิ่งที่เรียนไปทำให้เข้าใจในสิ่งที่เรียนมากขึ้นไหม ทำข้อสอบได้ดีมากขึ้นหรือไม่ ทำให้คลายข้อสงสัยที่เคยมีเกี่ยวกับบทเรียนมากขึ้นหรือเปล่า ดังนั้น เราจะเห็นว่าระยะเวลาที่ใช้อาจจะมีระยะเวลาที่นานกว่าธุรกิจอื่น

ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับนักเรียนทุกคน

การเรียนรู้มีลักษณะแตกต่างกัน ดังนั้น การทำแอพพลิเคชันที่ตอบโจทย์นักเรียนแค่เพียงประเภทเดียว เราก็ไม่สามารถตอบโจทย์นักเรียนทั่วประเทศได้ การเอาเทคโนโลยีมาทำให้มันเฉพาะบุคคล (Personalize) ขึ้นก็เป็นสิ่งจำเป็น เหมือนเราดู Netflix เมื่อเราชมภาพยนตร์ได้ระยะหนึ่ง เขาก็จะแนะนำว่าเราควรดูเรื่องอะไรต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามจะทำ เช่น เด็กนักเรียนเข้ามา StartDee และตอบคำถามแบบฝึกหัด เราก็พยายามเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ว่า การที่ตอบถูกข้อนี้ ตอบผิดข้อนี้ น่าจะหมายความว่าเขาไม่เข้าใจจุดไหน

เราจะพยายามยิงเนื้อหาส่วนนั้นไปให้เขา ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้ระยะเวลามาก เพราะว่ามันจำเป็นต้องเก็บข้อมูลมหาศาลและต้องศึกษาพฤติกรรมผู้เรียนอีก เรียกได้ว่า มันไม่มีประสบการณ์เรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่ละคนก็มีแนวทางที่แตกต่างกันไป เราพยายามทำให้มันรองรับคนทุกประเภทได้

ทำธุรกิจการศึกษา ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมที่ค่อนข้างสูง

การทำให้กระบวนการเรียนรู้ของเด็กดีที่สุดอย่างที่ควรจะเป็นแต่การตอบโจทย์การอยู่รอดของธุรกิจ บางทีมันสวนทางกัน เช่น สมมติเราบอกว่า เราต้องการให้เด็กเข้าใจบทเรียนจริงๆ แต่เราเห็นความต้องการของตลาดต้องการแค่เคล็ดลับบางอย่างเพื่อไปทำข้อสอบ ถ้าเราไม่มีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน เราอาจจะหลุดเข้าไปในกับดักที่ว่าแค่ผลิตสูตรให้เด็กท่องจำเพื่อให้เขาทำข้อสอบได้ เขาก็มีความสุขกับการใช้แอพพลิเคชันเราแล้ว ทั้งที่ความจริงเขาอาจจะไม่เข้าใจเนื้อหาที่มันถูกสอน

อันนี้เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่สูงขึ้น ที่ทุกบริษัทต้องคำนึงถึงและขีดเส้นให้ชัดเจนว่าจะมีหลักการอะไรที่จะไม่ไปล้ำเส้นเช่นนั้น เพราะว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันส่งผลกระทบต่ออนาคตของนักเรียนจริงๆ ถึงแม้เขาเข้ามาแล้วและได้สูตร เคล็ดลับในการทำข้อสอบได้ดี แต่เขาไม่เข้าใจในการเรียนจริงๆ จะส่งผลที่ไม่ดีกับอนาคตของผู้เรียนในระยะยาว

ช่วงที่โควิดระบาดหนัก โรงเรียนถูกเลื่อนปิดเทอมและนักเรียนถูกบังคับให้เรียนออนไลน์ วันนั้นยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชันของ StartDee และแอพอื่นๆ สูงมาก เกิดขึ้นหลังจากที่แอพพลิเคชันของรัฐล่ม ก็เป็นเครื่องสะท้อนว่าคนเปิดรับการเรียนออนไลน์มากขึ้น

แต่ในอีกมุมหนึ่ง การเรียนออนไลน์ในรูปแบบที่หลายโรงเรียนจัดสรรให้นักเรียนนั่งหน้ากล้องตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้นักเรียนมีความล้าและเครียด บทเรียนที่เรียนก็เยอะเท่าเดิมไม่มีการลดบทเรียนลง อีกทั้งครูไม่ไว้ใจว่าเด็กตั้งใจเรียนออนไลน์รึเปล่า จึงไปเพิ่มงาน เพิ่มการบ้าน จนทำให้เด็กมีเวลาน้อยลง ทำให้เกิดความล้า เครียดจากการเรียนมากขึ้น เด็กบางคนที่เคยใช้แอพเรียนกับเรา ก็มียอดที่เข้ามาเรียนลดน้อยลงด้วย ช่วงที่โรงเรียนเปิดได้ยังใช้แอพได้ดีกว่าตอนที่เรียนออนไลน์อย่างเดียวเสียอีก

StartDee เติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังเปิดตัวได้เพียง 1 ปีกว่า มียอดดาวน์โหลดเพิ่มสูงกว่า 1.3 ล้านดาวน์โหล ขึ้นสู่เบอร์ 1 แอพพลิเคชันส่งเสริมการเรียนออนไลน์ซึ่งจะมีบทบาทอย่างมากในการจัดการศึกษาในอนาคต ตอนนี้วางแนวทาง One for All และ All in One ให้เป็นแกนหลักสำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์นักเรียนและโรงเรียนอย่างครอบคลุม พ้อมเดินหน้าพัฒนาเนื้อหาการเรียนการสอนต่อเนื่อง

พริษฐ์ระบุ โควิดส่งผลให้ตลาดเทคโนโลยีด้านการศึกษาเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องแม้วิกฤตโควิด-19 จะจบลง เพราะผู้ริบริหารโรงเรียนได้มองเห็นถึงความสำคัญของระบบจัดการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) ที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์และกรณีที่ต้องจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning)

สำหรับ StartDee ช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมาหลังเปิดตัว ก้าวขึ้นมาเป็นแอพพลิเคชันเสริมการเรียนออนไลน์ ที่มียอดดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศกว่า 1.3 ล้านโดาวน์โหลด และมีจำนวนสมาชิกเติบโตขึ้นถึง 5 เท่า StartDee มุ่งมั่นพัฒนาแอพให้เสมือนการเรียนสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ในมือถือของนักเรียนทุกคน เพราะช่วยลดการเรียนไม่เข้าใจ เรียนไม่ทัน ช่วยเติมเต็มให้นักเรียนเข้าใจทุกบทเรียนที่สงสัยและเพลิดเพลินขณะเรียนรู้ได้ โดยยึดหลัก One for All และ All in One

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา