We aren’t in the coffee business serving people. We are in the people business serving coffee. เป็นคำกล่าวของ Howard Schultz ประธานและซีอีโอ ของ สตาร์บัคส์ คอร์ป ที่บอกให้รู้ว่า สตาร์บัคส์ ไม่ได้อยู่ในธุรกิจกาแฟ แต่อยู่ในธุรกิจของคนเสิร์ฟกาแฟ ซึ่งสะท้อนออกมาด้วยคุณภาพของพาร์ทเนอร์ (พนักงานของสตาร์บัคส์) ที่มีมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ และวิธีการชงกาแฟ มาเสิร์ฟให้บริการลูกค้า ทั้งหมดคือ ธุรกิจของคน
และวันนี้ สตาร์บัคส์ ได้ย้ำถึงการทำธุรกิจนี้ด้วยการยกระดับขึ้นสู่การเป็นกาแฟ Super Premium ด้วยคอนเซ็ปท์สโตร์ใหม่ในชื่อ Starbucks Reserve เป็นอีกครั้งที่สตาร์บัคส์สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น ทำให้หลายคนที่นึกถึงร้านกาแฟ จะนึกถึงสตาร์บัคส์ก่อนเป็นอันดับแรก เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ และ สุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด มาร่วมให้ข้อมูลที่คนรักกาแฟ ต้องไม่พลาดเรื่องราวต่อจากนี้
Starbucks Reserve Experience Store ประสบการณ์ที่แตกต่าง
ด้วยการดีไซน์มุมหนึ่งของร้านให้มีความแตกต่าง มีพาร์ทเนอร์ระดับ Coffee Master เป็นผู้ชงกาแฟ เลือกใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีชนิดพิเศษที่หายากและมีจำนวนจำกัด จากทั่วโลก เช่น อเมริกาใต้, แอฟริกา ซึ่งให้กลิ่น รสชาติ ที่แตกต่างกันไป ตามแนวคิด Starbucks Coffee Leadership Store ที่มีอยู่ 17 สาขา มาวันนี้ ได้เกิดคอนเซ็ปท์สโตร์ขึ้นแล้วจำนวน 3 สาขา ที่มีความพิเศษยิ่งกว่าเดิม ที่
- สาขา Siam Discovery
- สาขา Central East Ville
- สาขา ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า
ทั้ง 3 สาขา จะให้ประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งกว่าเดิม จากปกติที่ได้รับกาแฟในเวลาไม่กี่นาที แต่ที่ Starbucks Reserve ลูกค้าสามารถ Slow Life แล้วดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ ได้สัมผัสการชงกาแฟด้วยเครื่องชงที่หลากหลายอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่สาขา ศูนย์การค้าเกสร
มีอะไรที่ Starbucks Reserve ศูนย์การค้าเกษร ?
3 นวัตกรรมของสตาร์บัคส์ คือ เมล็ดกาแฟ – ศาสตร์และศิลปะการชง – บาริสต้า คือหัวใจสำคัญ ที่สาขาศูนย์การค้าเกษร พนักงานทุกคนคือ Coffee Master ที่ใช้เวลาในการอบรมอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งในศาสตร์และศิลปะการชง เมล็ดกาแฟพิเศษที่หายากจากแหล่งเพาะปลูกเดียว (Single Origin) ซึ่งมีเพียง 3% ของกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่สุดของโลก และสุดยอดเครื่องชงกาแฟ Victoria Arduino VA 388 Black Eagle เครื่องแรกในไทย และเครื่องที่ 5 ใน APAC (ที่ราคาสูงเกือบ 1 ล้านบาท) ทำให้ดึงรสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะได้ดีที่สุด
และยังมีเครื่องชงอื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับการจิบกาแฟ เช่น Coffee Press การกรองกาแฟแบบสแตนเลส ได้รสชาติที่เข้มข้น, Pour-Over (drip) ให้รสชาติกาแฟโดดเด่น หอมกรุ่น สดชื่น, SIPHON (ไซฟ่อน) การชงกาแฟด้วยแรงดันไอน้ำและสุญญากาศ รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม และ CHEMEX (เคมเม็กซ์) การชงกาแฟแบบไฮบริด ผสมการชงแบบ Pour-Over และการแช่กาแฟ ใช้กระดาษกรองหนากว่า จึงได้กาแฟที่สะอาดบริสุทธ์ และมีรสหอมหวาน
แนะนำว่า คนรักกาแฟ ต้องไปลองเมล็ดกาแฟ Super Premium และใช้วิธีการชงให้ครบทั้งหมด ซึ่งมีที่ Starbucks Reserve สาขาศูนย์การค้าเกษรเท่านั้น (Starbucks Reserve อีก 2 สาขา มีไม่ครบ) ราคาอาจจะสูงกว่า Starbucks ปกติ (160 บาทขึ้นไป) แต่ก็ไม่ได้สูงเกินกว่าสิ่งที่ได้รับ (และราคาจะปรับตามเมล็ดกาแฟที่เปลี่ยนไปในทุก 6-8 สัปดาห์)
Starbucks ประเทศไทย การเติบโตอย่างแข็งแรง
การเปิด Starbucks Reserve ขึ้นเพราะมองเห็นว่าพฤติกรรมการกินกาแฟของคนไทยเปลี่ยนไป มีการเลือกรสชาติของกาแฟมากขึ้น เลือกแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ และเลือกวิธีการชงเพื่อให้ได้กาแฟที่แตกต่างไปตามบุคลิกลักษณะ ทั้งหมดทำให้สตาร์บัคส์และลูกค้ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ทุกวันนี้ ลูกค้ามากกว่า 50% เป็นสมาชิก My Starbucks Reward โดยมีจำนวนสมาชิก 680,000 ราย เติบโตจากปีที่ผ่านมา 23% (แบ่งเป็น Gold 48,000 Green 38,000 และ Welcome 600,000) และสตาร์บัคส์ ยังเป็นร้านกาแฟแบรนด์แรกที่เปิด Mobile Payment ในประเทศไทย ทำให้ง่ายต่อการสะสมคะแนน การจ่ายเงิน และสามารถสื่อสารโปรโมชั่นใหม่ๆ ไปถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยมียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 450,000 ครั้ง
เกร็ดความรู้ 18 ปี Starbucks ในประเทศไทย
- 2541 – ร้านสตาร์บัคส์ เริ่มสาขาแรกในประเทศไทยที่ เซ็นทรัล ชิดลม ใครเคยไปสัมผัส ที่นั่นคือจุดเริ่มต้น
- 2556 – ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ ประธานและซีอีโอของสตาร์บัคส์ คอร์ป เดินทางมาไทยอย่างเป็นทางการ เปิดตัว “ร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพื่อชุมชน” ที่สาขาหลังสวน และเป็นร้านแรกที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา
- 2557 – ฉลองร้านสาขาที่ 200 สาขา Fast Fac จ.อยุธยา ตัวร้านเป็นเอกลักษณ์ด้วยอิฐมอลสีแดงสวยงามด้วย
- 2558 – ฉลองครบ 18 ปี พร้อมเปิดตัว Starbucks Reserve Experience Store แห่งแรกในไทย ที่ศูนย์การค้าเกสร
- ปีนี้ สตาร์บัคส์ให้บริการเครื่องดื่มทุกชนิดในร้านเฉลี่ย 3.5 ล้านแก้วต่อเดือน
- ปัจจุบัน สตาร์บัคส์ ประเทศไทยมีสาขาทั้งหมด 262 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น
- Starbucks Coffee Leadership Store 20 สาขา (มี Starbucks Reserve 3 สาขา)
- Starbucks Drive-thru 14 สาขา
- Starbucks Experience (ทั่วไป) 228 สาขา
- ตั้งเป้าปี 2561 จะขยายให้ครบ 300 สาขา
- สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มีร้านกาแฟสีเขียวที่ผ่านมาตรฐานของ LEED ซึ่งเป็นมาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกให้การยอมรับ จำนวน 42 สาขา มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา
- Starbucks Thailand เป็นชื่อ Facebook ที่มียอดแฟนเพจ 900,000 คน มี Instagram ที่มีผู้ติดตาม 86,000 คน
- สตาร์บัคส์ เลือกใช้เมล็ดกาแฟ อาราบิก้า จากทั่วโลก โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2514
สรุป
คนที่ชื่นชอบการดื่มด่ำ และพิถีพิถันในการดื่มกาแฟ แนะนำให้ไป Starbucks Reserve โดยเฉพาะสาขา ศูนย์การค้าเกษร (อยู่ตรงทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS) ไปสัมผัสบรรยากาศและ “ประสบการณ์สตาร์บัคส์” แล้วจะเข้าใจว่านี่คือ ธุรกิจของคนเสิร์ฟกาแฟ (ที่ราคาอาจจะสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ) แต่ถ้าได้ลองแล้ว จะรู้ถึงความพิเศษ และทำให้สตาร์บัคส์ เป็นผู้นำในตลาดร้านกาแฟ และเป็นหนึ่งใน Brand Love ของคนไทยและทั่วโลก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา