Spotify เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ประกาศนโยบาย “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” (Work from Anywhere = WFA) เป็นการถาวร
บริษัทเทคโนโลยีหลายรายเริ่มนโยบายนี้กันมาก่อนแล้ว หลังสถานการณ์ COVID-19 ในปี 2020 บีบให้บริษัทจำนวนมากต้องสั่งพนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home = WFH) หลังจากนั้นบริษัทบางแห่งประกาศให้พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้อย่างถาวร เช่น Twitter ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีบางรายอย่าง Google หรือ Facebook ยังแบ่งรับแบ่งสู้ โดยใช้วิธียืดระยะเวลากลับมาออฟฟิศไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์
Spotify เป็นบริษัทล่าสุดที่ตัดสินใจให้ทำงานจากที่ไหนก็ได้อย่างถาวร บริษัทระบุว่าพนักงานจะทำงานจากบ้านหรือออฟฟิศก็ได้ รวมถึงจากภูมิภาคไหนก็ได้ บริษัทจะเปลี่ยนกรอบวิธีคิดมาเป็น distributed-first ถือว่าพนักงานจะอยู่นอกออฟฟิศเป็นหลัก
Spotify บอกว่าแนวคิด WFA ประกอบด้วยเหตุผล 4 ข้อคือ
- “งาน” คือสิ่งที่พนักงานลงมือทำ ไม่ใช่สิ่งของที่อยู่ในออฟฟิศแล้วต้องเดินทางมาหา
- การวัดผลงาน ไม่ใช่วัดจากระยะเวลาที่อยู่ในออฟฟิศ ดังนั้นให้พนักงานเป็นคนเลือกว่าทำงานที่ไหนจะได้ผลดีที่สุดดีกว่า
- ความยืดหยุ่นในการเลือกสถานที่ทำงาน ยังช่วยแก้ปัญหาสมดุล work-life balance, แก้ปัญหาพนักงานลาออก และเพิ่มโอกาสการจ้างพนักงานใหม่ๆ ด้วย
- แนวคิด distributed-first จะบีบให้บริษัทปรับวิธีการสื่อสาร วิธีการทำงานภายใน ให้เหมาะสมกับพนักงานที่อยู่นอกออฟฟิศ
Spotify ยอมรับว่านโยบาย Work from Anywhere จะส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กรในออฟฟิศ (in-office culture) แต่ชั่งน้ำหนักแล้วก็ยังเลือกทางนี้ และเตรียมพร้อมปรับวัฒนธรรมองค์กรให้เหมาะกับการทำงานทางไกลในอนาคตต่อไป
ที่มา – Spotify
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา