เจาะกลยุทธ์ SOURI โมเดล ‘มาการองประจำจังหวัด’ ล่าสุดมีรสชาติ ‘ไก่ทอดหาดใหญ่’ แล้ว

ถึงโลกเราจะยังไม่มีรถบินได้ แต่ ‘หาดใหญ่’ มี ‘มาการองไก่ทอด’ เป็นที่แรกของจักรวาลแล้วนะ

SOURI

เมื่อต้นปี 2025 ‘SOURI’ แบรนด์ขนมชื่อดังที่โดดเด่นเรื่องมาการองไส้แน่นหรือ ‘แฟตการอง’ (Fatcaron) เคยประกาศไว้ว่า ในปีนี้จะขยายสาขาไปต่างจังหวัดมากขึ้น 

มาถึงตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนกันยายนแล้ว และ SOURI สามารถขยายสาขาได้จริงๆ แถมยังนำเอกลักษณ์ท้องถิ่นมาปั้นเป็นมาการองไส้พิเศษประจำจังหวัดด้วย เช่น

  • แฟตการองรสโรตีสายไหมของจังหวัดอยุธยา
  • แฟตการองรสกล้วยตากของจังหวัดพิษณุโลก
  • แฟตการองรสข้าวหลามของจังหวัดชลบุรี

ล่าสุด ในวันที่ 12 กันยายน 2025 SOURI ก็สร้างความฮือฮาให้ชาวเน็ตอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว ‘แฟตการองรสไก่ทอดหาดใหญ่’ ประจำสาขาหาดใหญ่ โดยเรียกยอดวิวบน X (Twitter) ได้มากกว่า 5.5 ล้านครั้ง แถมผู้ใช้งานโซเชียลยังเอาไปพูดต่อกันอีกแพร่หลาย

มูฟนี้ของ SOURI สร้างอิมแพคบนโลกออนไลน์มากจริงๆ ไม่ใช่แค่บน X เท่านั้น แต่ไปทั่วเกือบทุกแพลตฟอร์ม เพราะปัจจุบัน ชาวเน็ตหลายคนที่ไม่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ก็เริ่มเรียกร้องให้ทางแบรนด์ทำคอลเล็กชันรวมรสชาติพิเศษของแต่ละจังหวัดมาขายบ้างแล้ว

ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตบางส่วนก็เริ่มคาดเดาว่า หาก SOURI ขยายสาขาไปจังหวัดอื่น จะรังสรรค์เมนูอะไรออกมาอีกบ้าง จะเป็นมาการองรสปลาส้มของจังหวัดพะเยาอย่างที่ เก่ง-หฤษฎิ์ พูดหรือเปล่า? แล้วถ้ามาขอนแก่น แฟนๆ จะได้ทานมาการองเนื้อไดโนเสาร์ไหม? หรืออาจเป็นมาการองเนื้อสุนทรภู่ประจำจังหวัดระยอง?

กลยุทธ์ในการสร้างสรรค์รสพิเศษประจำจังหวัดของ SOURI นั้นคืออะไร? และทำไมถึงซื้อใจคนไทยได้มากขนาดนี้? มาดูกัน

Localized Marketing ไม่อยากเป็นแค่แบรนด์จากกรุงเทพฯ แต่ขอชูเอกลักษณ์ของทุกจังหวัด

SOURI
Hat Yai Fried Chicken Fatcaron

จริงๆ แค่การที่ SOURI ขยายไปต่างจังหวัดก็อาจเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆ หลายคนมากแล้ว เพราะลูกค้าบางส่วนมองว่า ปกติกว่าจะได้ทาน คือต้องรอโอกาสเข้ากรุงเทพฯ เท่านั้น 

แต่ทำไมแบรนด์ถึงยังต้องคิดค้นรสชาติพิเศษที่ชูเอกลักษณ์ประจำจังหวัดด้วยล่ะ?

‘Localized Marketing’ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในการปรับแบรนด์ รวมถึงสินค้าและบริการให้เข้ากับพื้นที่ที่เราอยากขยายเข้าไป เพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษให้กับลูกค้า 

กลยุทธ์นี้ถือเป็นที่นิยมของแบรนด์ดังระดับโลกหลายๆ เจ้า อาทิ

  1. KFC: แม้จะมีจุดเริ่มต้นจากสหรัฐอเมริกา แต่เราคงคุ้นเคยเป็นอย่างดีว่า KFC บ้านเราถูกปรับให้ถูกปากคนไทยมากแค่ไหน โดยเฉพาะเมนูอย่าง ‘วิ้งแซ่บ’ ที่ไม่สามารถหาทานได้ในประเทศอื่นๆ อีก
  1. Netflix: อีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาที่ไม่ได้นำเสนอแค่คอนเทนต์จากประเทศตนเองเท่านั้น แต่ยังภูมิใจนำเสนอภาพยนตร์และซีรีส์ฝีมือต่างชาติ พร้อมทุ่มงบไปกับการรังสรรค์เนื้อหาให้เข้ากับผู้ชมประเทศต่างๆ ผ่านการโปรโมตแคมเปญพิเศษ เช่น โกโกวายักษ์ที่เสาชิงช้าดังที่เราเห็นในปีนี้ รวมถึงการทำซับไตเติ้ลหลากหลายภาษาด้วย
  1. Lay’s: จะมีชาติไหนขาย Lay’s รสกะเพราอีกถ้าไม่ใช่ประเทศไทย? และนี่ล่ะคือกลยุทธ์ Localized Marketing ของแบรนด์ที่ไม่ได้รังสรรค์แค่รสชาติพิเศษให้ถูกปากคนในพื้นที่เท่านั้น แต่รวมถึงการปรับโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าด้วย เช่น เมื่อเจาะตลาดยุโรป Lay’s ก็ทำโฆษณาเกี่ยวกับการแข่งขัน UEFA Champions League แต่เมื่อเจาะตลาดสหรัฐฯ บริษัทก็นำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวกับ Super Bowl แทน

แม้ว่า SOURI ที่เป็นมาการองสัญชาติไทยจะยังไม่ได้ขยายไปสู่ตลาดโลก แต่ก็ถือเป็นเพียงไม่กี่แบรนด์ในประเทศ ที่พยายามใช้กลยุทธ์ Localized Marketing ในการเจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละจังหวัด ส่งผลให้แบรนด์ดูเข้าถึงง่าย พร้อมเพิ่มมูลค่าของอัตลักษณ์ท้องถิ่นไปในตัวด้วย

ขณะเปิดตัวสาขาที่หาดใหญ่ SOURI เองก็เผยว่า การมาในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการขยายตลาดสู่ภูมิภาคใหม่ แต่เป็นการเชื่อมโยงผู้คนและประสบการณ์ความสุขฉบับ SOURI ที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นกับความคิดสร้างสรรค์อย่างลงตัว

Scarcity Marketing เมื่อความจำกัดกลายเป็นความพิเศษที่ใครก็อยากได้

SOURI
ภาพบรรยากาศวัน Grand Opening SOURI สาขาเซ็นทรัลหาดใหญ่

นอกจากนี้ ด้วยความที่ SOURI วางขายรสชาติพิเศษของแต่ละจังหวัดแค่ในพื้นที่เท่านั้น จึงนำไปสู่อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มีชื่อว่า ‘Scarcity Marketing’

เมื่อพูดถึง Scarcity Marketing หรือการตลาดแบบขาดแคลน คนอาจนึกถึงแคมเปญที่ขายของแบบจำกัดเวลาหรือจำนวนชิ้นเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ว หลักการนี้หมายถึงทุกสินค้าและบริการที่มีความเป็น ‘ลิมิเต็ดอิดิชัน’ อย่างที่ SOURI ขายมาการองบางรสชาติแค่ในบางพื้นที่

หากอธิบายหลักการของ Scarcity Marketing แบบง่ายๆ ก็คือ คนเรามีแนวโน้มที่จะซื้อ ‘ของหายาก’ มากกว่าซื้อสินค้าที่ยังหาได้ทั่วไปนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ การที่แบรนด์ต่างๆ ออกโปรโมชันจำกัดเวลา จำนวนชิ้น หรือช่องทางการขาย จึงอาจไปกระตุ้นความรู้สึกของลูกค้าที่ว่า “ฉันกำลังพลาดอะไรไปไหมนะ?” จนทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าเหล่านั้นอย่างง่ายดาย เมื่อมีโอกาสเข้าถึงมัน

สำหรับ SOURI เองก็เช่นกัน เพราะอย่างตอนที่ไปเปิดตัวที่พิษณุโลก พร้อมแฟตการองรสกล้วยตาก ทางแบรนด์ก็เล่าว่า ลูกค้ามาต่อคิวกันเยอะมาก โดยบางคนมาตั้งแต่ก่อนห้างเปิดด้วยซ้ำ

นอกจากรสชาติพิเศษประจำจังหวัดแล้ว ตอนที่ SOURI ไปเปิดขายในหาดใหญ่ ทางแบรนด์ยังจัดกิจกรรมพิเศษให้ลูกค้า 100 ท่านแรกที่ซื้อแฟตการองครบ 350 บาทด้วย โดยพวกเขาจะได้รับ SOURI Tote Bag กระเป๋าผ้าดีไซน์พิเศษเฉพาะสาขานี้เป็นของขวัญตอบแทน

คุณเห็นถึงความพิเศษของ Scarcity Marketing ที่ SOURI กำลังทำหรือยัง?

Brand Storytelling ยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นสู่แฟตการองสุดทันสมัย

SOURI

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สะท้อนให้เห็นจากโซเชียลมีเดียของ SOURI คือ ‘Brand Storytelling’ เพราะคอนเทนต์ของแบรนด์มักมีการสอดแทรกการเล่าเรื่องไปด้วยเสมอ ไม่ได้มีแค่การขายของแบบโต้งๆ เท่านั้น

Brand Storytelling คือเทคนิคการเล่าเรื่องเพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น และเป็นการหลอมตัวตนของแบรนด์ให้เป็นรูปเป็นร่าง ตั้งแต่ประสบการณ์ที่มอบให้ลูกค้า ยันวัฒนธรรมการทำงานของบุคลากร

‘Frontify’ แพลตฟอร์มการสร้างแบรนด์อธิบายว่า Brand Storytelling ที่แข็งแกร่งจะเกิดจากการผสมผสานระหว่าง 2 องค์ประกอบ ได้แก่

  1. การค้นพบ (Discovery) เช่น การรวบรวมฟีดแบคจากลูกค้า หรือสิ่งที่พนักงานเคยเจอ จะช่วยให้แบรนด์ของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น และนำมาต่อยอดเล่าเป็นเรื่องราวที่จริงใจจากผู้มีประสบการณ์จริง
  1. การคิดค้น (Invention) หมายถึงการถ่ายทอดเรื่องราวความสำเร็จและความพยายามของแบรนด์ เช่น วิถีของการทำงานในแต่ละวัน หรือกว่าจะคิดโปรเจกต์หนึ่งสำเร็จ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เพราะคอนเทนต์แบบนี้สามารถช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงเป้าหมายองค์กรได้ดีขึ้น

ตอนที่ SOURI ไปเปิดสาขาใหม่ในชลบุรี พร้อมแฟตการองรสข้าวหลาม ทางแบรนด์ก็ถ่ายทอดที่มาที่ไปของเมนูนี้ผ่านโซเชียลมีเดียว่า “เราอยากเล่าเรื่องข้าวหลามแบบใหม่ให้น่าสนใจกว่าเดิม ผ่านขนมฝรั่งเศสอย่างแฟตการอง ที่ไม่ลดทอนเสน่ห์ไทย แต่ยกระดับให้ร่วมสมัยขึ้น”

หรือถ้าเข้าไปดูในบัญชี ‘rise.with.souri’ คุณก็จะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของคนทำงานในบริษัทเช่นกัน

การสร้าง Brand Storytelling ไม่ได้แค่ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ธุรกิจเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว ตนเองต้องการอะไรกันแน่ และมองเห็นโอกาส รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ ชัดเจนขึ้น

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ว่า SOURI ใช้กลยุทธ์อะไรบ้างเท่านั้น และเราเชื่อว่า กว่าแบรนด์จะประสบความสำเร็จเหมือนวันนี้ได้ คงต้องฝ่าฟันอะไรมามากมาย รวมถึงมีแนวคิดดีๆ อีกเยอะ

ในปี 2024 SOURI สามารถทำยอดขายให้เติบโตขึ้นถึง 800% ดังนั้น ในปี 2025 นี้ที่แบรนด์ได้ขยายตัวออกไป แถมเรียกกระแสบนโซเชียลอย่างต่อเนื่อง เราก็ขอเอาใจช่วยให้ SOURI โตขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า พร้อมเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้ประกอบการไทยต่อไป

แล้วถ้า SOURI มาเปิดสาขาในจังหวัดคุณ คุณอยากเห็นแฟตการองรสอะไร?

ที่มา: SOURI (1) (2), WEGLOT, Frontify (1) (2), GWI, Pimberly

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา