Japan Today รายงาน ร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven ที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่สามารถเปิดทำการได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง เพราะแรงงานขาดแคลน ขณะเดียวกันความต้องการในช่วงกะดึกก็ลดลงด้วย
ผลสำรวจจาก Kyodo News ที่จัดทำขึ้นในช่วงเดือนเมษายน โดยมีร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ 7 แห่ง ยกเว้น Yamazaki Baking Co. พบว่า ร้านสะดวกซื้อราว 6,400 แห่งจาก 55,000 แห่งในประเทศ เปิดทำการในระยะเวลาสั้นลง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน บางร้านยังเร่งเปิดตัวตัวการใช้งานเครื่องคิดเงินบบไม่ต้องใช้แรงงานคนด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลนแรงงานที่กำลังรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัท Seven-Eleven Japan Co ได้ลดชั่วโมงทำการของร้านค้าลงกว่า 200 แห่ง นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2020 ตามคำขอของเจ้าของแฟรนไชส์ ขณะที่บริษัท Lawson Inc ก็ใช้มาตรการเดียวกันประมาณ 100 สาขา ซึ่งบิ๊กแบรนด์ที่เป็นร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นจะแบ่งได้ดังนี้ บริษัท Seven-Eleven Japan, บริษัท Lawson และบริษัท FamilyMartCo ซึ่งสัดส่วนของร้านค้ามีเวลาเปิดทำการสั้นลงนั้นค่อนข้างค่ำ อยู่ที่ประมาณ 8-10% เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายย่อยอื่นๆ
ขณะที่บริษัท Secomart คือร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น มีอัตราการลดชั่วโมงในการเปิดทำการร้านค้าสูงสุดที่ 87% ส่วนบริษัท Poplar Co มีสำนักงานใหญ่ในฮิโรชิมา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น นี่ก็ลดชั่วโมงทำการมากถึง 79% ด้านเจ้าหน้าที่ของ Ministop Co ระบุว่า เรากำลังเดินหน้าใช้มาตรการที่พยายามคำนึงถึงยอดขายและความยั่งยืน ร้านสะดวกซื้อแบรนด์นี้ก็ลดชั่วโมงทำการราว 22%
Seven-Eleven ญี่ปุ่นเปิดสาขาแรกที่โตเกียว เขต KOto Ward ช่วงพฤษภาคม ปี 1974 เปิดทำการ 24 ชั่วโมง จากนั้นการเปิดทำการที่ยาวนานเช่นนี้ก็แพร่หลายมากขึ้น ลูกค้าไม่ได้เข้ามาซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อเท่านั้น แต่ยังมาใช้บริการทางการเงิน การจัดส่งพัสดุ รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ ด้วย
อย่างไรก็ดี ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดภายในประเทศเริ่มถึงจุดอิ่มตัว วิกฤตขาดแคลนแรงงานเริ่มรุนแรงขึ้น และยังมีข้อพิพาทระหว่างเจ้าของแฟรนไชส์ในโอซากาและ Seven-Eleven Japan ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงทุกวัน กรณีนี้ได้รับความสนใจจากสาธารณะอย่างมากและยังคงกังวลประเด็นเหล่านี้มากขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา