ประกันสังคม ดีอย่างไร คนวัยทำงานศึกษาไว้ ได้ประโยชน์

ประกันสังคมphoto : pixabay

เชื่อว่าคำว่าประกันสังคมเป็นคำที่ชาวมนุษย์เงินเดือนคุ้นเคยเป็นอย่างดีแน่นอน อาจจะได้ยินบ่อยขึ้นในช่วงนี้เพราะมีการปรับลดเงินสมทบเข้าประกันสังคม แล้วเงินที่เราถูกหักไปมันไปอยู่ที่ไหนกันนะ ประกันสังคมคืออะไร แล้วสุดท้ายเราได้ใช้สิทธิประกันสังคมจริงเหรอ หาคำตอบได้จากบทความนี้เลย

ประกันสังคม เป็นการส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคมซึ่งเป็นการเก็บออมเงินในอีกรูปแบบหนึ่งและให้สิทธิประโยชน์หลายด้านแก่ผู้ที่ส่งเงินสมทบหรือเราเรียกกันว่า “ผู้ประกันตน” ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ที่ทำงานมีรายได้ประจำเท่านั้น แต่ฟรีแลนซ์หรือผู้มีรายได้อื่นๆ ก็สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนกับทางประกันสังคมได้ ซึ่งจะถูกแยกออกมาเป็น 3 กลุ่มหรือที่เราเรียกกันติดปากว่ามาตรานั่นเอง 

  • ผู้ประกันตนมาตรา 33 คือลูกจ้างหรือพนักงานประจำที่มีอายุมากกว่า 15 ปีและมีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์
  • ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือคนที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อนไม่ต่ำกว่า 12 เดือนแต่ตอนนี้อยู่ในสถานะลาออกหรือถูกเลิกจ้าง ซึ่งหากต้องการที่จะคงสิทธิผู้ประกันตนก็ต้องแจกกับสำนักงานประกันสังคมภาย 6 เดือนหลังจากลาออกจากงาน
  • ผู้ประกันตนมาตรา 40 คือคนที่ไม่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ 39 มาก่อนและเป็นผู้ทำงานอิสระหรือฟรีแลนซ์

จ่ายเงินประกันสังคมแล้วจะสิทธิได้อะไรบ้าง

  • เจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถเข้ารักษาพยาบาลตามโรงพยาบาลที่เลือกไว้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นการกรณีฉุกเฉินสามารถติดต่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อทำการรักษาและเบิกค่ารักษาทีหลังได้
    • กรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (IPD) เบิกได้ตามจริง ค่าห้องและค่าอาหารสำหรับโรงพยาบาลรัฐเบิกได้ไม่เกิน 700 บาท โรงพยาบาลเอกชนเบิกได้ไม่เกิน 2,000 บาท
  • กรณีทุพพลภาพรุนแรง ได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 50% ของค่าจ้างรายเดือนตลอดชีวิต
  • กรณีทุพพลภาพไม่รุนแรง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ ค่าใช้จ่ายในกระบวนการฟื้นฟูทางร่างกายและจิตใจ ไม่เกิน 40,000 บาทต่อราย 
  • กรณีเสียชีวิต รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต
  • เงินสมทบค่าคลอดบุตร ได้รับแบบเหมาจ่ายไม่จำกัดจำนวนครั้ง เบิกได้ครั้งละ 15,000 บาท ผู้ประกันตนหญิงได้รับเงินสงเคราะห์จากการลาคลอด 50% ของรายได้เป็นเวลา 90 วัน
  • เงินสงเคราะห์บุตร โดยได้รับเงิน 800 บาทต่อคนตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ ครั้งละไม่เกิน 3 คน
  • กรณีว่างงาน 
    • กรณีถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้างปีละไม่เกิน 180 วัน
    • กรณีลาออก ได้รับเงินทดแทน 30% ของค่าจ้างปีละไม่เกิน 90 วัน
    • กรณีเหตุสุดวิสัย ได้รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้างปีละไม่เกิน 180 
  • เงินสมทบบำนาญชราภาพ 
    • อายุ 55 ปี สมทบไม่ครบ 180 เดือน(15 ปี) ได้รับเงินบำเน็จ
    • อายุ 55 ปี สมทบตั้งแต่ 180 เดือน(15 ปี) ได้รับเงินบำนาญ
  • เป็นฟรีแลนซ์แต่อยากได้สิทธิประกันสังคมต้องทำอย่างไร

หลายคนที่เป็นฟรีแลนซ์แต่อยากจะได้สิทธิเหมือนเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถสมัครและจ่ายเงินสมทบเพื่อรับสิทธิประโยชน์ได้ ซึ่งกลุ่มนี้จะถูกจัดอยู่ในผู้ประกันตนมาตรา 40 โดยมี 3 รูปแบบของการจ่ายเงินสมทบขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ที่ได้รับ ได้แก่

  • รูปแบบที่ 1: จ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์ 3 กรณี 
    • กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน ไม่เกินปีละ 30 วัน
    • กรณีทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 – 1,000 บาทต่อเดือน ไม่เกิน 15 ปี
    • กรณีเสียชีวิต รับค่าทำศพ 20,000 บาท หากจ่ายเงินสมทบเกิน 60 เดือนจะได้เพิ่มอีก 3,000 บาท
  • รูปแบบที่ 2: จ่ายเงินสมทบ 100 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์ 4 กรณี 
    • กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน ไม่เกินปีละ 30 วัน
    • กรณีทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 – 1,000 บาทต่อเดือน ไม่เกิน 15 ปี
    • กรณีเสียชีวิต รับค่าทำศพ 20,000 บาท หากจ่ายเงินสมทบเกิน 60 เดือนจะได้เพิ่มอีก 3,000 บาท
    • บำเหน็จชราภาพ 50 บาทต่อเดือน 
  • รูปแบบที่ 3: จ่ายเงินสมทบ 300 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์  5 กรณี 
    • กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน ไม่เกินปีละ 90 วัน
    • กรณีทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 – 1,000 บาทต่อเดือนตลอดชีวิต
    • กรณีเสียชีวิต รับค่าทำศพ 40,000 บาท
    • บำเหน็จชราภาพ 150 บาทต่อเดือน 
    • เงินสงเคราะห์บุตร 200 บาทต่อเดือนต่อคน ไม่เกิน 2 คนต่อครั้ง

สามารถจ่ายเงินสมทบเพื่อเป็นผู้ประกันตนได้ง่ายๆ ผ่านเคาท์เตอร์เซอร์วิสที่ร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ 

จะเห็นได้ว่าการประกันสังคมไม่ได้เป็นเงินที่ส่งไปแต่ละเดือนอย่างสูญเปล่า เพราะสุดท้ายคุณก็จะต้องได้รับผลประโยชน์จากสิทธิการเป็นผู้ประกันตนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากเป็นพนักงานประจำไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคุณจะเสียสิทธิไปแต่หากทำงานอิสระหรือฟรีแลนซ์หากต้องการได้สิทธิของผู้ประกันตนจำเป็นที่จำต้องจ่ายค่าประกันสังคมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ขาดเพราะจะทำให้เสียสิทธิประโยชน์ในภายหลัง

ที่มา : FINNOMENA, tidlor.com

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา