สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 เริ่มดีขึ้น ทำให้ S&P หนึ่งในธุรกิจร้านอาหารชั้นนำของไทยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ว่ากำไรสุทธิ 154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เริ่มกลับมาเติบโตอย่างชัดเจน
กำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน S&P เล่าให้ฟังว่า จากการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ร้านอาหาร และช็อพต่างๆ ต้องปิดตัวในไตรมาส 1 และ 2 แต่ตอนนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้น เพราะกลับมาเปิดได้เกือบ 100% ทำให้สถานการณ์ของธุรกิจเริ่มปรับตัว
“ตอนนี้เราเปิดได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นสาขาท่าอากาศยาน แต่ถึงอย่างไรสภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวอยู่ ทำให้บริษัทต้องใช้โอกาสนี้ในการปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างการทำงาน, คิดค้นเมนูใหม่ๆ, ควบคุมค่าใช้จ่าย และเพิ่มยอดขายในช่องทางเดลิเวอรี่ ทำให้ไตรมาส 3 เราเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง”
เหตุนี้เองผลประกอบการทางการเงินไตรมาส 3 ของปี 2563 จึงมียอดขาย 1,388 ล้านบาท ลดลง 584 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกสะสมกลับมามีกำไร 76 ล้านบาท ที่น่าสนใจคือสัดส่วนกำไรสุทธิกับยอดขายคิดเป็น 11.1% จากปีก่อนอยู่ที่ 7.1%
นอกจากนี้ยอดขายช่องทางเดลิเวอรี่ยังเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทำให้ความจำเป็นที่ต้องจริงจังกับตลาดนี้จึงมีมากขึ้น และบริษัทหวังว่าช่วงปลายปีที่เป็น High Season ของทุกปีจะช่วยเพิ่มการเติบโตในไตรมาส 4 เช่นเดิม
สรุป
ไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคนี้สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ยิ่งร้านเหล่านั้นต้องอยู่ในห้างสรรพสินค้า ดังนั้นการที่ S&P หันมาจริงจังกับเดลิเวอรี่ เช่นสร้างเมนูใหม่ และร่วมมือกับบริการหลากหลาย ทำให้บริษัทกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง และในไตรมาส 4 ก็น่าจะเติบโตเช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา