ในยุคที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความผันผวนและปัจจัยท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าที่ยังคงคุกรุ่น ปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจนกลายเป็น “New Normal” ของภาคธุรกิจไทย การดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป การ “ปรับตัว” และ “คิดใหม่” จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาด ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจสามารถยืนหยัดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ซึ่งเป็นหัวใจและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ มักเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ การขยายกิจการ หรือแม้กระทั่งการประคับประคองสภาพคล่องในยามวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม “SMEs เปราะบาง” ที่ขาดหลักประกันหรือบุคคลค้ำประกัน ทำให้โอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นไปได้ยาก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะกลไกหลักของภาครัฐ ที่พร้อมเป็นหลักประกันให้กับ SMEs และช่วยเติมเต็มช่องว่างในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้ SMEs ไทยสามารถก้าวข้ามทุกอุปสรรคและเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
“พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” บสย. เคียงข้าง SMEs ในทุกสถานการณ์
บสย. ไม่ได้เป็นเพียงหน่วยงานที่ทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือน “พันธมิตร” ที่พร้อมยืนเคียงข้างผู้ประกอบการ SMEs ในทุกสถานการณ์ ด้วยแนวคิด “พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ที่ครอบคลุมทั้งการสนับสนุนด้านเงินทุนและการให้คำปรึกษาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ภารกิจแรกคือ “พร้อมค้ำ” บสย. มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ SMEs ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อที่ออกแบบมาอย่างหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและลักษณะเฉพาะของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น SMEs ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน ขยายกิจการ หรือแม้แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติต่างๆ บสย. พร้อมเป็นหลักประกันที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับสถาบันการเงิน ทำให้ธนาคารมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อให้กับ SMEs มากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ภารกิจที่สองคือ “พร้อมช่วย” บสย. ตระหนักดีว่าบางครั้ง SMEs อาจเผชิญกับปัญหาหนี้สินที่เกินกำลัง จึงได้ออกมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “มาตรการ 3 สี” (ม่วง เหลือง เขียว) ซึ่งเป็นมาตรการที่ช่วยแก้หนี้ให้กับลูกหนี้ที่ บสย. ได้จ่ายเคลมไปแล้ว รวมถึงลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก มาตรการเหล่านี้มุ่งเน้นการลดภาระหนี้ ลดต้น ลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้ SMEs สามารถกลับมาฟื้นตัวและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ นอกจากนี้ บสย. ยังทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษาทางการเงิน” ที่ให้คำแนะนำด้านการบริหารจัดการเงินสด การวางแผนธุรกิจ และการเตรียมความพร้อมในการขอสินเชื่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ SMEs มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการกระแสเงินสดและหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลดล็อกข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง และสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน
เปิดตัว 2 มาตรการพิเศษ บสย. อัดฉีด 5,000 ล้านบาท ปลดล็อกสภาพคล่อง SMEs
เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมสภาพคล่องให้กับ SMEs ในภาวะที่เศรษฐกิจยังคงเปราะบาง ที่ประชุมคณะกรรมการ บสย. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ได้มีมติจัดสรรวงเงินค้ำประกันเพิ่มเติมอีก 5,000 ล้านบาท ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนสถาบันการเงินให้กล้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรายที่ต้องการสภาพคล่องเพิ่มเติมแต่ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน
มาตรการพิเศษทั้ง 2 โครงการนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการดูดซับความเสี่ยงด้าน Credit Cost ให้กับสถาบันการเงิน ด้วยอัตราการจ่ายเคลม (จ่ายค่าประกันชดเชย) ที่สูงกว่าปกติ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้ธนาคารพิจารณาสินเชื่อให้กับ SMEs รายย่อยมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
- โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Power Trade & Biz
โครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือ กลุ่มผู้ประกอบการส่งออก-รายย่อย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้า ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ส่งผลต่อการค้าและการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ
- วงเงินค้ำประกันต่อราย: 500,000 – 10,000,000 บาท
- จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก: ช่วยลดภาระทางการเงินในช่วงเริ่มต้น
- ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 1.5% ต่อปี: ในปีที่ 4 ต่อยอดภาระค้ำคงเหลือ ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำมาก
- ค้ำประกันสูงสุด 7 ปี: สร้างความมั่นคงและระยะเวลาที่เพียงพอต่อการฟื้นตัวและเติบโตของธุรกิจ
- โครงการนี้มีอัตราการ จ่ายเคลมสูงถึง 37% ต่อพอร์ตการค้ำประกัน เมื่อเทียบกับการค้ำประกันปกติที่ระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการดูดซับความเสี่ยงด้าน Credit Cost ทำให้สถาบันการเงินมีความเชื่อมั่นและกล้าที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
- โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Micro Biz
โครงการนี้มุ่งเน้นการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ Micro SMEs หรือกลุ่มรายย่อย โดยเฉพาะ พ่อค้าแม่ค้า อาชีพอิสระ หรือผู้ประกอบการค้าขายออนไลน์ (New Generation) ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ แต่ประสบปัญหาขาดคนค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งเป็นกลุ่ม “เปราะบาง” ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
- วงเงินค้ำประกันต่อราย: 10,000 – 500,000 บาท
- จุดเด่นที่น่าสนใจ:
- ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก: เช่นเดียวกับโครงการแรก เพื่อลดภาระเริ่มต้น
- ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 1.5% ต่อปี: ในปีที่ 4 ต่อยอดภาระค้ำคงเหลือ
- ค้ำประกันสูงสุด 7 ปี: ให้ระยะเวลาที่เพียงพอต่อการสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจ
- โครงการนี้มีอัตราการ จ่ายเคลมสูงถึง 42% ต่อพอร์ตการค้ำประกัน เมื่อเทียบกับการค้ำประกันปกติที่ระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเป็นพิเศษ เพื่อสร้างแรงจูงใจและลดความกังวลด้านความเสี่ยงให้กับสถาบันการเงินในการพิจารณาสินเชื่อให้กับกลุ่ม Micro SMEs อย่างแท้จริง
จากการเปิดตัว 2 โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Power Trade & Biz และ SMEs Micro Biz ภายใต้วงเงินค้ำประกันรวม 5,000 ล้านบาทนี้ บสย. คาดการณ์ว่าจะสามารถก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบได้ถึง 5,600 ล้านบาท ช่วยให้ SMEs กว่า 21,000 ราย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็นได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการรักษาการจ้างงานได้มากถึง 46,150 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยรวมได้สูงถึง 20,650 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกที่ชัดเจนต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
บสย. พร้อมค้ำประกัน ครอบคลุมทุกกลุ่ม SMEs
บสย. เข้าใจถึงความหลากหลายของภาคธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย และได้ออกแบบโครงการค้ำประกันสินเชื่อให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของ SMEs ใน 5 กลุ่มหลัก เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ประกอบการทุกรูปแบบธุรกิจจะได้รับโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น
- ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจต่างๆ: ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19, อุทกภัย, ภัยแล้ง, หรือแผ่นดินไหว บสย. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูและเยียวยาธุรกิจ
- ลูกค้าที่ต้องการเงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน แต่ขาดหลักประกัน: สำหรับ SMEs ที่มีศักยภาพในการเติบโต แต่ติดขัดเรื่องหลักประกัน บสย. พร้อมเป็นหลักค้ำประกันเพื่อเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ
- กลุ่มเปราะบาง: ได้แก่ พ่อค้าแม่ค้า, Startup คนรุ่นใหม่, และผู้ประกอบการค้าขายออนไลน์ (New Generation) ที่อาจมีปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเนื่องจากขาดประวัติเครดิตหรือหลักประกัน บสย. ให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้เป็นพิเศษ
- ธุรกิจที่ปรับตัวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ: สำหรับ SMEs ที่ต้องการเงินทุนในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร, ปรับปรุงกระบวนการผลิต, หรือลงทุนติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป เพื่อตอบรับกระแสการพัฒนาอย่างยั่งยืน บสย. พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านนี้
- ธุรกิจตามยุทธศาสตร์ของประเทศ: รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Soft Power และธุรกิจที่ตอบโจทย์นโยบายสำคัญของประเทศ บสย. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติผ่านการสนับสนุน SMEs
การที่ บสย. มีโครงการค้ำประกันที่ครอบคลุมหลากหลายกลุ่มเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำความเข้าใจและสนับสนุน SMEs ในทุกมิติ ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ในกลุ่มใด หรือกำลังเผชิญกับความท้าทายแบบไหน บสย. ก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ธุรกิจของคุณ “คิดใหม่” และ “ปรับตัว” เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง
ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืนที่ บสย. พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอน บสย. ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการเป็นกลไกสำคัญของภาครัฐที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง ด้วยมาตรการ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” วงเงินค้ำประกัน 5,000 ล้านบาท ผ่าน 2 โครงการพิเศษ SMEs Power Trade & Biz และ SMEs Micro Biz บสย. ไม่เพียงแต่ช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วย “ต่อลมหายใจ” และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถ “เดินหน้าต่อได้อย่างยั่งยืน” ได้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
บสย. พร้อมที่จะเป็น “พันธมิตรทางธุรกิจ” ที่เข้าใจและพร้อมสนับสนุน SMEs ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในยุค New Economy นี้ หากคุณคือผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังมองหาโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน หรือต้องการคำปรึกษาทางการเงินเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ บสย. พร้อมให้คำแนะนำและช่วยเหลือ
ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Power Trade & Biz และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Micro Biz สามารถเข้ามาตรวจสุขภาพทางการเงิน พร้อมจองคิวขอรับคำปรึกษาได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ LINE OA : @tcgfirst หรือติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานเขตของ บสย. ทั้ง 11 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาค และ บสย. Call Center โทร. 02-890-9999 บสย. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งให้กับ SMEs ไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา