ถอดประสบการณ์ครูฝรั่ง สอนภาษาในกรุงเทพฯ: เมืองน่าอยู่ ปลอดภัย สบาย อาหารอร่อยและถูก

“อยู่กรุงเทพฯ ชีวิตดี แฮปปี้มาก เดินทางสะดวก ปลอดภัย น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” ถอดประสบการณ์จากครูฝรั่ง สอนภาษาอังกฤษโรงเรียนอินเตอร์ เงินเดือนประมาณ 1 แสนบาท

กรุงเทพฯ ไม่อยู่ไม่ได้แล้ว สะดวกและปลอดภัย รายได้ดีขนาดนี้ ฝรั่งที่ไหนก็อยากมา

Bangkok

แต่ถ้าเทียบกับค่าจ้างที่น้อยกว่านี้ เขาก็งงมากว่า คนที่ได้เงินเดือนน้อยกว่าเค้าครึ่งหนึ่ง จะใช้ชีวิตให้มันประหยัดได้ยังไงกัน?? จะเก็บออมยังไงก่อน??

บทสัมภาษณ์จากครูสอนภาษาในโรงเรียนอินเตอร์ อิมพอร์ตมาจากลอนดอนสู่กรุงเทพมหานครฯ James Gane วัย 34 ปีให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่างต่างประเทศ Business Insider ว่า เขามาเป็นครูสอนอยู่ในกรุงเทพฯ ในปี 2020 โดยเล่าย้อนไปในช่วงก่อนหน้านั้นว่า เขาเคยทำงานในมหาวิทยาลัยในลอนดอนมาก่อน 6 ปี และก็รู้สึกว่าอยู่อังกฤษตอนนั้นก็มีวิกฤตค่าครองชีพและยังมีวิกฤตเงินเฟ้ออีก เขารู้สึกว่าคุณภาพชีวิตไม่ค่อยพัฒนาเท่าไร จึงตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตตัวเองครั้งใหญ่

การเป็นครูไม่ง่าย แต่ก็เป็นรางวัลชั้นยอด..สำหรับเขา

Gane เล่าว่า เขาทำงานในโรงเรียนอินเตอร์ในกรุงเทพฯ และสอนนักเรียนระดับมัธยมต้น สอนเด็กในวัย 11-18 ปี ในคลาสมีกลุ่มเล็กๆ เพียง 16 คน เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้แค่รับผิดชอบการสอนหรือการศึกษาที่มอบให้นักเรียนเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงอนาคตของเด็กๆ ด้วยที่เขาต้องคำนึงถึง เพราะครูสามารถทำให้เกิความแตกต่างอย่างมากในโอกาสที่นักเรียนจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ เคยมีนักเรียนคนหนึ่งส่งอีเมล์มาขอบคุณเขาหลังจากที่ได้รับผลการสอบ SAT เขาบอกว่านั่นคือสิ่งที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับภาระงานที่ล้นหลาม

เขาบอกว่าแนวคิดที่ว่า การสอนภาษาต่างประเทศในไทยนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก คุณสามารถไปดื่มและเมาได้ทุกคืนนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง อย่างน้อยก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขาแน่ๆ (เขาอ้างถึงประเด็นในคลิป TikTok ที่เป็นไวรัลเรื่องการสอนภาษาของครูต่างชาติในไทย)

เขาเล่าว่า ข้อห้ามที่รู้กันในหมู่ครูประจำก็คือ สัปดาห์การทำงานนั้นแสนยาวนานและทำให้เหนื่อยล้ามาก โดยปกติเขาก็ทำงานราว 45-50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นอกจากภาระงานที่มากมายแล้ว ยังรู้สึกถึงความไม่แน่นอนแถมไม่มั่นคงด้วย เพราะเป็นสัญญาจ้างแบบระยะสั้นและยังมีการจ้างในระยะเวลาที่แน่นอนด้วย (fixed-term contracts) มันทำให้สิทธิในการอาศัยอยู่ที่นี่ต้องขึ้นอยู่กับใบอนุญาตให้ทำงาน ถ้าไม่ต่อสัญญาเขาก็ต้องออกจากประเทศไทยไป

อย่างไรก็ดี เมื่อเขาตัดสินใจที่จะหันหลังให้อังกฤษที่มีวิกฤตการเงินที่หลากหลายท่วมท้นและหันหน้าเข้าไทย เขาก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการเตรียมเป็นครู เพื่อคว้าใบประกาศจากหลักสูตรวิชาชีพเฉพาะครู (Postgraduate Certificate in Education: PGCE) ที่ต้องเรียนถึง 1 ปี ทั้งนี้ก็เพื่อการันตีการสอนว่ามีคุณภาพและทำให้เขาเริ่มมาสอนในไทยได้

จากนั้น Gane ก็ได้งานสอนภาษาในโรงเรียนอินเตอร์ในไทย มีรายได้ประมาณ 1 แสนบาทต่อเตือน หรือประมาณ 2,800 เหรียญสหรัฐ เขาบอกว่ามันทำให้เขาสามารถอาศัยอยู่ในคอนโดย่านสีลมที่ถือเป็นใจกลางเมืองหลวงของไทยได้ ใช้เวลาเดินทางแค่ 10 นาทีเท่านั้น ถ้าคิดจะเดินทางจากตัวเมืองไปตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ เดินทางได้สะดวก ใช้เวลาเพียง 5 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ใกล้ที่สุดได้

เขาบอกว่า แม้ว่าคุณจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญญาตรีหรือว่าอาจจะต้องคว้า TEFL หรือต้องจบคอร์สระดับมาตรฐานที่สามารถสอนภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติได้ แต่ถ้าได้เงินเดือนในระดับที่แตกต่างไปจากนี้ อย่างที่เขาเคยเห็นพวกป้ายโฆษณาที่รับสมัครงานตามคุณสมบัติครูที่ว่ามา ด้วยระดับค่าจ้างที่น้อยกว่าที่เขาถึงครึ่งหนึ่ง คือเขาได้เงินเดือนประมาณ 1 แสนบาท แต่ถ้ามีคนที่ได้เงินเดือนต่ำกว่า 5 หมื่นบาทอีก เขาก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่า พวกเขาเหล่านั้นจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร จะมีเงินเก็บไหม หรือจะใช้เงินให้มันประหยัดกว่านั้นได้ยังไงกัน งงมาก

อย่างไรก็ดี เขาบอกว่า แนวคิดของเขาในวัย 34 ปีอาจจะแตกต่างจากคนวัย 20 ที่คิดอยากทำงานสอนที่นี่แค่เพียง 1-2 ปี ซึ่ง Gane ก็บอกว่า เขารักคนไทย คนไทยใจดีและสุภาพและยังทำให้เขามีความสุขที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เขาชอบที่จะใช้ชีวิตในที่ที่อบอุ่นและมีแสงแดดตลอดทั้งปี คือถ้าเทียบกับชีวิตของเขาตอนอยู่ที่ลอนดอนแล้ว เขาต้องอาศัยอยู่ใน Shared apartment หรือที่พักที่เช่าอยู่ร่วมกันหลายคน และยังต้องใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานเป็นชั่วโมง แต่ที่กรุงเทพฯ เขาสามารถอาศัยอยู่กับพาร์ทเนอร์ในย่านกลางใจเมืองและจ่ายค่าเช่าเพียง 30,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น

เขาบอกว่า อยู่ที่กรุงเทพฯ เขารู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัยน้อยลงด้วย เขาไม่ค่อยเห็นภาพการใช้ความรุนแรงเลยสักครั้งเมื่อตอนอาศัยอยู่ที่นี่ ผิดกับที่ลอนดอน เขาจะต้องพบเห็นสถานการณ์การใช้ความรุนแรงทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวตอนกลางคืน แถมยังไม่เคยเห็นว่าที่ไหนจะมีแหล่งรวมอาหารที่หลากหลายมากกว่ากรุงเทพฯ อีกแล้ว คุณสามารถหาซื้อได้ทุกอย่างทั้งอาหารข้างทางแบบสตรีทฟู้ดในราคาเพียง 60 บาทไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินเลยล่ะ

กล่าวโดยสรุปก็คือ กรุงเทพฯ นี่ดีจริงๆ ถ้ามีเงินเดือนระดับหลักแสนบาท ก็รับประกันได้เลยว่าชีวิตจะแฮปปี้เหมือนที่ครูฝรั่งเล่ามา

ที่มา – Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา