ทำความรู้จัก Sleep Economy เศรษฐกิจคนอยากนอนมูลค่ากว่า 585,000 ล้านเหรียญฯ

‘กินอิ่ม นอนหลับ’ คำคุ้นหู และเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตในอุดมคติของหลายๆ คน แต่รู้หรือไม่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังเติบโตไปทั่วโลก ถ้าถามว่าตลาดนี้ใหญ่แค่ไหนในปี 2567 ที่จะถึงนี้มีการคาดการณ์กันว่า Sleep Economy หรือเศรษฐกิจเกี่ยวกับการนอนของโลกว่าจะมีเติบโตเป็น 585,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 20 ล้านล้านบาท!

Sleep Economy คืออะไร?

Sleep Economy หรือเศรษฐกิจเกี่ยวกับการนอน ซึ่งรวมถึงสินค้าสำหรับกลุ่มคนนอนหลับยาก ยกตัวอย่างสินค้าที่ช่วยให้คนหลับง่าย เช่น กลุ่มเครื่องนอน, เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน, ผลิตภัณฑ์ยา, อาหารเสริม, บริการทางการแพทย์, กลุ่มเทคโนโลยีช่วยการนอน, และชุดนอน 

แต่ทำไมเทรนด์นี้ยังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ด้านพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมในวิถีชีวิตที่เร่งรีบและมีการแข่งขันสูงทำให้เกิดภาวะความเครียดและวิตกกังวล สิ่งที่ตามมา คือ การนอนไม่หลับ ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของประชากรลดลง “Sleep Economy” หรือ “Sleep-Health Economy” จึงเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่น่าจับตามอง 

โดยปัจจุบันมีการพัฒนาสินค้าและบริการที่ช่วยให้สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น และมีการคาดการณ์มูลค่า Sleep Economy หรือเศรษฐกิจเกี่ยวกับการนอนของโลกว่า ในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตเป็น 585,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 432,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2562 สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการการนอนหลับอย่างมีคุณภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกันข้อมูลจาก iiMedia Research (2021) บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาดจีนที่ระบุว่า ในช่วงปี 2559-2564 ขนาดตลาด Sleep Economy ในจีนมีมูลค่าจาก 261,630 ล้านหยวน (ประมาณ 39,245 ล้านเหรียญสหรัฐ) และเพิ่มเป็น 417,320 ล้านหยวน (ประมาณ 62,598 ล้านเหรียญสหรัฐ)

เจาะลึกตลาดการนอนแต่ละธุรกิจใหญ่แค่ไหน

ปัญหาการนอน “ตลาดของคนนอนไม่หลับ” จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าและบริการที่ช่วยในเรื่องการนอน โดยในปี 2562 อุตสาหกรรมที่ช่วยเรื่องการนอนไม่หลับในตลาดโลก มีมูลค่า 432,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น

  1. กลุ่มเครื่องนอน มูลค่า 194,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนราว 45% ของทั้งหมด
  2. กลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน มูลค่า 106,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนราว 25% ของทั้งหมด
  3. ผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม และบริการทางแพทย์ มูลค่า 58,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนราว 13% ของทั้งหมด
  4. กลุ่มเทคโนโลยีการนอน บริการ แอปพลิเคชันที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ และอื่น ๆ มูลค่า 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนราว 10% ของทั้งหมด
  5. กลุ่มชุดนอน มูลค่า 31,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 7% ของทั้งหมด

คนไทยนอนมีพฤติกรรมการนอนแบบไหน?

เบื้องต้นข้อมูลการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า คนไทย 30% หรือประมาณ 21 ล้านคน นอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน เช่นเดียวกับหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา สิงค์โปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น ที่มีชั่วโมงการนอนใกล้เคียงกัน 

“ตลาดของคนนอนไม่หลับ” ในประเทศไทย เดิมอยู่ในกลุ่มผู้มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันขยายตัวไปสู่กลุ่มคนทำงานและวัยรุ่น เหมือนกับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน ช่วงอายุ 18-40 ปี ที่กำลังประสบปัญหานอนไม่หลับ หรือนอนหลับอย่างไม่มีคุณภาพ จึงกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจต่างๆ ขึ้นมา

โอกาสของประเทศไทยกับ Sleep economy 

ในการนอนหลับ และเป็นตลาดที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยสามารถนำผลิตภัณฑ์ของไทย เช่นผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (ครีมที่มีกลิ่นและส่วนผสมช่วยให้ผ่อนคลาย) กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือเครื่องดื่มและสารสกัดต่าง ๆ เช่น วิตามินบี แมกนีเซียม เมลาโทนิน กาบา และแอลธีอะนีน นำมาผสมผสานกับสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณช่วยในการนอนหลับ ให้มีรสและกลิ่นที่แปลกใหม่ เช่น ใบบัวบก ขิง มะนาว มะลิ ฟ้าทะลายโจร และมะเฟือง

นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า หรือบรรเทาความเครียด 

เช่น สารสกัดจากใบชา และบัวบก ที่มีสารแอลธีอะนีน ใช้เป็นยาในศาสตร์อายุรเวท และการแพทย์แผนจีน ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวล น้ำมันรำข้าว และจมูกข้าว มีสารกาบา ช่วยผ่อนคลายความกังวล ทำให้นอนหลับ ฟักทอง มีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน (Serotonin) และนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine: NE) ช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า และจากผลการศึกษาทางคลินิกของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในระยะเวลา 6 สัปดาห์ พบว่าสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoid) ในเหง้าขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยลดความเครียดได้ 62.5% ของจำนวนผู้รับทดสอบ

ทั้งนี้ Grand View Research บริษัทวิจัยด้านการตลาดของสหรัฐฯ (2021) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองและผ่อนคลายความเครียดมีการขยายตัวต่อเนื่องทั่วโลก มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ 

คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพรที่มีแนวโน้มเติบโตเร็วถึง 9.2% ในช่วงระยะเวลา 8 ปี (ปี 2564 – 2571)  โดยตลาดจีนมีความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการนอนเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ช่วยนอนหลับ อาหารเสริม เจลลี่นอนหลับ เครื่องนอน และที่อุดหูผ้าปิดตา เป็นต้น

“ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกำลังเติบโต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองและผ่อนคลายความเครียดที่ใช้สารสกัดจากสมุนไพร ซึ่งผู้บริโภคให้ความสนใจและมั่นใจในความปลอดภัยจากการใช้สารสกัดจากธรรมชาติหรือสมุนไพร มากกว่าการใช้ยาหรือสารสกัดจากการสังเคราะห์ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว จึงเป็นโอกาสของไทยต่อตลาด Sleep Economy ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทย” นายพูนพงษ์กล่าว

หมายเหตุ

ถ้านอนไม่หลับทำอย่างไร?

McKinsey & Company แนะนำแนวทางช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นไว้ 3 แนวทาง คือ 

  1. สร้างบรรยากาศห้องนอนให้ผ่อนคลาย โดยปรับเปลี่ยนห้องนอนและเครื่องนอนที่มีคุณภาพ เช่น เตียง ฟูก หมอน และชุดนอน จะช่วยให้การนอนหลับสบายตลอดคืน 
  2. ปรับเปลี่ยนกิจวัตรก่อนนอน เช่น ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ อ่านหนังสือ หรือนั่งสมาธิ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า หรืออุปกรณ์ Smart Device เพื่อมอนิเตอร์คุณภาพการนอน
  3. บำบัดด้วยการแพทย์ คือ การรับประทานยาที่มีส่วนผสมช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา