เช้าวันนี้ (11 ก.ค.) บริษัท สกาย ไอซีที จํากัด (มหาชน) หรือ SKY เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 8/2566 ในวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีมติอนุมัติให้ บริษัท เมทเธียร์ จํากัด (เมทเธียร์) ซึ่งเป็นบริษัท ย่อยของบริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นของบริษัท รักษาความปลอดภัยและบริหารธุรการ สยาม จํากัด หรือ SAMCO จํานวน 12,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นสามัญที่ออกและจําหน่ายแล้วทั้งหมดของ SAMCO จากผู้ถือหุ้นเดิมจํานวน 3 รายของ SAMCO รวมถึงการเข้าทําสัญญาซื้อขายหุ้น ข้อตกลง สัญญาอื่น ๆ และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและรับโอนหุ้นจากผู้ขายหุ้น SAMCO
ทั้งนี้ เมทเธียร์จะชําระราคาซื้อขายหุ้นด้วยเงินสด 500 ล้านบาท และคาดว่าธุรกรรมการซื้อหุ้น SAMCO นี้จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/2023
โดย SAMCO มีธุรกิจให้บริการ 4 ประเภท ได้แก่
1) บริการบริหารอาคารสถานที่และรักษาความสะอาด
2) บริการรักษาความปลอดภัย
3) บริการบริหารงานระบบความปลอดภัย
4) บริการบริหารระบบการจัดการเงินตราและขนส่งนิรภัย
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมของ SAMCO ได้แก่
1) บริษัท ซัมมิท พีค อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (คิดเป็น 37.89% ของหุ้นทั้งหมด)
2) บริษัท ซินดิเคท จํากัด (คิดเป็น 33.92% ของหุ้นทั้งหมด)
3) บริษัท เอ.ไอ.เอส.อะกริคัลเจอร์ จํากัด (คิดเป็น 28.19% ของหุ้นทั้งหมด)
ด้าน SKY ที่มีมติเข้าลงทุนใน SAMCO เปิดเผยรายละเอียดในการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้คาดว่าจะสร้างผลประโยชน์กันบริษัทใน 3 ด้าน
อย่างแรก บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในการบริการทั้ง 4 ประเภทของ SAMCO ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำให้บริษัทฯ สามารถต่อยอดธุรกิจได้เพิ่มมากขึ้น และหลังจากเข้าลงทุนใน SAMCO บริษัทฯ สามารถใช้ประสบการณ์ด้านระบบการรักษาความปลอดภัย ในการพัฒนาธุรกิจได้ในอนาคต
ข้อสอง บริษัทฯ สามารถนํานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของ SAMCO ทําให้เกิดประโยชนร่วมกัน (Synergy) และสามารถต่อยอดธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลสําหรับการให้บริการขนส่งเงินสด เป็นตน
และข้อสาม การเข้าลงทุนในบริษัท (SAMCO) ที่เป็นหนึ่งในผู้นําธุรกิจรักษาความปลอดภัยและทําความสะอาด มีฐานลูกค้ามากกว่า 300 รายจะ ช่วยส่งเสริมธุรกิจให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยหรือธุรกิจให้บริการทําความสะอาดของเมทเธียร์ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ ซึ่งจะช่วยให้รายได้โดยรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น และทําให้เกิดการประหยัดจากขนาด (Economy of Scale) ในการลงทุนพัฒนาระบบสําหรับการให้บริการต่างๆ ในอนาคต
ที่มา – SET
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา