แม้กระแสสุขภาพที่เติบโตทำให้จำนวนร้านอาหารที่ชูเมนูสลัดมีมากขึ้น แต่ในมุมผู้บริโภคเมื่อนึกถึงร้านจำหน่ายสลัด Sizzler ย่อมเป็นหนึ่งในคำตอบแรก ๆ เพราะทำตลาดมาเป็นเวลานาน และโดดเด่นด้วยสลัดบาร์ที่แทบไม่มีคู่แข่ง
เมื่อผูกขาดความเป็น King of Salad มากว่า 30 ปี นับตั้งแต่ปี 2023 ทาง Sizzler ตั้งเป้าหมายใหม่ ขอเป็น King of Steak บ้าง เพราะมีผลสำรวจว่า สเต็กคือหนึ่งในเมนูยอดนิยมของชาวเอเชียในตอนนี้
การเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย King of Steak ของ Sizzler จะเริ่มต้นอย่างไร และ Sizzler จะแตกต่างจากร้านสเต็กระดับพรีเมียมที่เริ่มมีมากขึ้นในไทยได้หรือไม่ Brand Inside ชวนมาหาคำตอบไปด้วยกัน
Sizzler กับเป้าหมาย King of Steak
กรีฑากร ศิริอัฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ และการเงิน บมจ. ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เจ้าของร้าน Sizzler ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายใหม่ผ่านการเป็น King of Steak หรือผู้นำในตลาดสเต็ก ผ่านการพัฒนาเมนูโดยเริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2023 เป็นต้นไป
“เราเป็น King of Salad อย่างไม่ต้องสงสัย แต่เราขอเป็น King of Steak ด้วยหลังจากนี้ พร้อมคงความ Fresh, Premium และ Quality รวมถึงความยั่งยืนในการช่วยเหลือให้เกษตรกรไทยเติบโตไปด้วยกันกับ Sizzler ได้ ซึ่งภาพดังกล่าวจะเริ่มชัดเจนตั้งแต่ปลายปี 2022”
Sizzler เดินหน้าแผน King of Steak ด้วยการเปิดตัวเมนูใหม่ช่วงเทศกาลสิ้นปีประกอบด้วย
- สเต็กหมูโทมาฮอว์ค เสิร์ฟพร้อมเนยคาเฟเดอปารีส กับโปเตโต้เวจเจส มะเขือเทศ และเบบี้แครอทย่าง คู่กับซอสพริกไทยดำ ราคา 759 บาท
- สเต็กเนื้อไพร์มริบ เมนูสำหรับสั่งจองล่วงหน้า เสิร์ฟพร้อมเนยคาเฟเดอปารีสโปเตโต้เวจเจส การ์ลิคคอนฟิก มะเขือเทศ และเบบี้แครอทย่าง คู่กับซอสพริกไทยดำ และซอสบลูชีสซอส ราคา 2,899 บาท
- สเต็กเนื้อบีฟลอยน์ และกุ้งลายเสือ เมนูสเต็กเนื้อบีฟลอยน์ พร้อมกุ้งลายเสือชิ้นโต 2 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมมันบดทรัฟเฟิล และซอสพริกไทยดำสูตรเฉพาะ ราคา 849 บาท
ทั้งนี้ เมนูสเต็กเนื้อไพร์มริบ จะให้บริการใน 22 สาขา จากทั้งหมด 61 สาขา ส่วน เมนูสเต็กเนื้อบีฟลอยน์ และกุ้งลายเสือ จะให้บริการ 39 สาขา โดยทั้งสองเมนูจะให้บริการจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2023 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่สำคัญเมนูเหล่านี้จะมีการจัดโต๊ะแบบพิเศษ เพื่อให้ประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานที่ร้าน
สเต็กช่วยเพิ่มคนเข้าร้าน และจำนวนสมาชิก
“การเดินหน้าแผน King of Steak จะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มีมากกว่า 2 แสนรายอีกเท่าตัว และเพิ่มจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในสาขาที่ปัจจุบันมีหลายล้านคน/ปี แต่ถึงอย่างไรเราไม่ได้ทิ้งสลัดบาร์ เพราะจะเพิ่มเมนูอื่น ๆ และปรับหน้าตาของสลัดบาร์ให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคตลอดเวลา รักษาตำแหน่ง King of Salad ไว้ได้”
ภาพรวมตลาดร้านอาหารเริ่มฟื้นตัวกลับมาอย่างชัดเจนในปี 2022 แม้ช่วงต้นปีจะไม่เติบโตนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาดจากปีก่อน โดยปัจจัยที่ทำให้เติบโตมาจากการ Revenge Eating หรือกระแสการกลับมารับประทานอาหารนอกบ้านของผู้บริโภคหลังจากต้องกินที่บ้านมาโดยตลอด
ขณะเดียวกัน Sizzler เตรียมขยายสาขาเพิ่มขึ้นในปี 2023 เน้นไปที่การอยู่ในศูนย์การค้าเปิดใหม่เช่นเดิม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยเรื่องจำนวนได้ ส่วนสาขาในรูปแบบ To Go หรือหน้าร้านขนาดเล็ก จะยังไม่มีแนวโน้มขยายเพิ่มเติม เนื่องจากต้องการดูความเหมาะสมของตัวร้านกับพฤติกรรมผู้บริโภคก่อน
หน้าร้านคือเสน่ห์อีกอย่างของ Sizzler
แม้จะหันมาทำตลาดเดลิเวอรีเพิ่มเติม แต่ช่องทางหน้าร้านของ Sizzler คือจุดสำคัญในการดึงดูดลูกค้า ทำให้เริ่มมีการปรับหน้าร้านรูปแบบใหม่ เช่น Healthy Food Happy Mood ที่เน้นร้านพื้นที่ขนาดกลาง ตกแต่งแบบใหม่ และมีสลัดบาร์พรีเมียม เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สาขา
“ความท้าทายในการทำธุรกิจร้านอาหารในปี 2023 คืออยู่ ๆ ก็มีจำนวนคู่แข่งเพิ่มขึ้น ตัวอย่างคือศูนย์การค้าเปิดใหม่มักมีร้านหน้าใหม่เปิดเป็นประจำ ทำให้ร้านดั้งเดิมอย่าง Sizzler ที่เปิดมา 30 ปี ต้องหาอะไรใหม่ ๆ มาจูงใจลูกค้าตลอดเวลา”
สรุป
Sizzler กลายเป็นร้านอาหารที่เริ่มกลับมาเติบโตขึ้นหลังจากโรคโควิด-19 เริ่มทุเลา เพราะการกิน Sizzler ดีที่สุดคือกินที่ร้าน ผ่านการได้บรรยากาศเดินไปตักสลัดบาร์ และได้กินสเต็กร้อน ๆ ยิ่งหลังจากนี้ Sizzler จะเพิ่มความจริงจังกับเมนูสเต็กระดับพรีเมียมมากขึ้น ก็น่าสนใจว่า Sizzler จะแตกต่างกับร้านอื่น ๆ ที่ครองตลาดอยู่ได้อย่างไร
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา