หลังจากเปิดตัว SIRI VENTURE บริษัทร่วมทุนในรูปแบบ Corporate Venture Capital เพื่อทำวิจัยและลงทุนด้าน PropTech ระหว่าง แสนสิริ และ SCB เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เริ่มมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ SIRI VENTURE Partnership โครงการหนุน startup ด้าน PropTech
เร่งหนุน PropTech สร้างนวัตกรรมอสังหาฯ
ชาคริต จันทร์รุ่งสกุล CEO ของ SIRI VENTURE บอกว่า ภารกิจของ SIRI VENTURE คือ 1. ลงทุนด้าน PropTech ด้วยงบลงทุน 100 ล้านบาท ทั้งในไทยและสิงคโปร์ 2. จัดโครงการผลักดัน PropTech คัดเลือก 25 startup เข้าคอร์สติวเข้มเพื่อให้เกิดนวัตกรรมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้งานจริงในไตรมาส 4 ปีนี้ และ 3. พัฒนาศักยภาพ Home Service Application ของแสนสิริ ที่ปัจจุบันมีการใช้งานโดยลูกบ้านของแสนสิริ กว่า 14,000 ราย ใน 155 โครงการ ให้มีฟังก์ชั่นครอบคลุมมากขึ้น ขยายตลาดผู้ใช้ทั้งในและต่างประเทศ
SIRI VENTURE มองว่า PropTech เป็นส่วนสำคัญในการสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆ หรือโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดในธุรกิจอสังหาฯ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งในประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพสูง โดยเฉพาะการทำที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร (Holistic Property Technology Landscape) ตั้งแต่การบริหารระบบข้อมูล การออกแบบโครงการ การก่อสร้าง การสนับสนุนการซื้อขาย การบริหาร และให้บริการภายในโครงการ ไปจนถึงเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยแบบองค์รวม
“startup ไทยมีศักยภาพสูงในการสร้างสรรค์นวัตกรรม แต่ยังขาดปัจจัยคือการหาตลาดรองรับ การหาเงินทุน การสร้างเครือข่ายพันธมิตร และการสร้างความเชื่อมั่นในนักลงทุน ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ จะเข้ามาช่วยเติมเต็มได้ดี”
คัด 25 ทีมเข้า SIRI VENTURE Partnership
สำหรับโครงการ SIRI VENTURE Partnership มีเป้าหมายในการสนับสนุน PropTech ในแบบ Non-exclusivity ไม่จำกัดว่าต้องเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการสำหรับลูกบ้านแสรสิริเท่านั้น แต่มองภาพรวมอสังหาฯ ในประเทศไทย โดยเน้นงาน 3 ส่วน คือ
- Research สนับสนุนงานวิจัย และนักวิจัยที่มีผลงานที่สอดคล้อง หรือมีแนวคิดที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
- Investment ไม่มีการกำหนดรูปแบบตายตัว เน้นให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมในแต่ละ startup เพื่อให้เกิดการซื้อขายและนำไปใช้งานจริง ลงทุนเมื่อธุรกิจต้องการเงินทุนเพื่อให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการลงทุนร่วมกับนักลงทุนอื่น ๆ ที่สนใจในรูปแบบ Co-Invest ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ได้รับความสนใจจากกองทุนหลายแห่งทั้งจากประเทศไทย, สิงคโปร์และญี่ปุ่น สำหรับ SIRI VENTURE ได้ดำเนินเรื่องของบประมาณเพื่อลงทุนใน R&D เป็นอัตราประมาณ 1% ของรายได้ต่อปีของแสนสิริ
- Partnership การสร้างพันธมิตรธุรกิจ จะส่งเสริมทั้งความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และประสบการณ์ในการทำธุรกิจ หลายครั้งธุรกิจต้องการความเข้าใจในระดับรากฐาน SIRI VENTURE Partnership จะให้การสนับสนุน รวมถึงการทดสอบใน Labroom เพื่อทดลองก่อนออกสู่ตลาดจริง
จับตา startup ที่น่าสนใจ ก่อนออกสู่ตลาดจริง ไตรมาส 4
สำหรับ PropTech ที่เข้าร่วมโครงการ และมีการคัดเลือกเหลือ 25 ทีม มีหลากหลายบริการ เช่น
- ซอฟต์แวร์ที่นำมาใช้งานในด้านต่างๆ ของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
- เทคโนโลยีสำหรับที่อยู่อาศัยในอนาคต เช่น Home Automation, Security หรือ Home AI หรือระบบสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ ของบ้านด้วยเสียงภาษาไทย, ระบบ Preventive Maintenance ภายในบ้าน ฯลฯ
- การพัฒนาหุ่นยนต์มาใช้สำหรับงานก่อสร้าง, ใช้สำหรับงานซ่อมบำรุง, ความปลอดภัยของอาคาร, รวมถึงการให้บริการในด้านต่าง ๆ แก่ผู้อยู่อาศัย
- การใช้ Electric Vehicles (EV) หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเมือง
- การพัฒนาระบบช่วยเหลือและเก็บข้อมูลด้านสุขภาพเพื่อสนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดีขึ้น หรือเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล เป็นต้น
สรุป
ตลาด startup เริ่มแยกอุตสาหกรรมกันชัดเจนมากขึ้น โดยมีสาย FinTech และ PropTech คาดว่าจะมีสายอื่นๆ ตามมในอนาคตอันใกล้ เนื่องจาก startup ในไทยซึ่งมีอุปสรรคทั้งเรื่องการเข้าตลาด ขนาดตลาด และแหล่งเงินทุน รวมถึงเรื่ององค์ความรู้ทางธุรกิจ การจับมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า และ SIRI VENTURE ก็เป็นหนึ่งในบริษัทลงทุนที่เน้นด้านนี้อย่างชัดเจน น่าจะผลักดันให้เกิด startup ใหม่ๆ ในปลายปีนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา