สิงคโปร์ เป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่มีคนอายุ 65 ปีขึ้นไปเกิน 20% ไทยอันดับสองที่ 15%

‘สิงคโปร์’ กลายเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่จำนวนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นจนเกิน 20% ของประชากรทั้งประเทศ 

รายงาน Population in Brief 2025 ของรัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่า เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พลเมืองอายุ 65 ปีขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วน 20.7% ของทั้งหมด เพิ่มจาก 19.9% ในปีก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 13.1% เมื่อปี 2015 และคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 23.9% ภายในปี 2030

รายงานยังระบุว่า จำนวนประชากรอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นราว 60% ในรอบทศวรรษ จาก 91,000 คนในปี 2015 เป็น 145,000 คนในปี 2025

ในทางตรงกันข้าม สัดส่วนของประชากรวัยทำงาน (20-64 ปี) ลดลงเหลือ 59.8% จาก 60.4% ในปีก่อนหน้า และ 64.5% เมื่อสิบปีก่อน

สาเหตุสำคัญมาจากอัตราการเกิดที่ต่ำต่อเนื่อง โดยอัตราการเกิดรวมของผู้อยู่อาศัย ซึ่งรวมถึงผู้พำนักถาวร อยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.97 ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่มีอัตราต่ำกว่า 1

ในบรรดาประเทศอาเซียน สิงคโปร์โดดเด่นในฐานะสังคมสูงวัยที่สุด ขณะที่ ‘ไทย’ ซึ่งเป็นประเทศที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเป็นอันดับสองในภูมิภาค มีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป คิดเป็น 15% ของทั้งหมดในปี 2024 ตามมาด้วย ‘เวียดนาม’ ที่ 9% จากข้อมูลของธนาคารโลก

หากเทียบทั่วเอเชีย ‘ญี่ปุ่น’ มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากที่สุดที่ 30% ของประชากร ตามด้วย ‘ฮ่องกง’ ที่ 23% ส่วน ‘จีนแผ่นดินใหญ่’ และ ‘อินเดีย’ มีสัดส่วน 15% และ 7% ตามลำดับ ตามฐานข้อมูลของธนาคารโลก

ถึงแม้จำนวนประชากรวัยทำงานของสิงคโปร์หดตัวลง แต่ประเทศยังมีโครงการขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างสนามบินชางงี เทอร์มินัล 5 ทำให้ต้องการแรงงานมากขึ้น

ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา ประชากรต่างชาติในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 2.7% เป็น 1.906 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานก่อสร้าง และแรงงานในครัวเรือน เมื่อรวมทั้งหมดแล้ว ประชากรสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 1.2% อยู่ที่ 6.11 ล้านคน

จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้ ผู้กำหนดนโยบายจึงต้องรับมือกับความท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อพลเมือง 1 ใน 5 มีอายุ 65 ปีขึ้นไป รัฐบาลสิงคโปร์จึงเร่งนำเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์มาใช้ เพื่อรับมือกับความท้าทายจากสังคมสูงวัย

โดยมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงานในหลายภาคส่วน เช่น สาธารณสุข และหวังสร้างโมเดลให้ประเทศอื่นๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาประชากรสูงวัยสามารถนำไปปรับใช้ได้

ที่มา: Nikkei Asia

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา