สิงคโปร์เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 17%
ภาษีที่ได้เพิ่ม ก็เอามาดูแลชาวสิงคโปร์ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีก
สำนักงานสรรพากรของสิงคโปร์ (IRAS) สามารถจัดเก็บภาษีได้กว่า 6.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณ 2023/2024 พบว่ามีอัตราเพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า โดยอัตราที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่ามีค่าแรงเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2022
รายได้ที่จัดเก็บ คิดเป็น 77.6% ของรายได้จากการดำเนินการของรัฐบาล อยู่ในอัตรา 11.9% ของ GDP โดยการจัดเก็บภาษีนี้จะนำไปใช้เพื่อเป็นทุนสำหรับการให้บริการชุมชน ทำให้เศรษฐกิจเติบโต ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่ขึ้น และยังนำไปช่วยสนับสนุนโครงการพัฒนาสังคมและชีวิตชาวสิงคโปร์ให้ดีขึ้นด้วย
สำหรับอัตราค้างชำระภาษีสินค้าและบริการ ภาษีเงินได้ และภาษีทรัพย์สินนั้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.64% โดย IRAS ระบุว่า ยังมีการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอยู่ในระดับสูงอยู่ แต่ทางสรรพากรก็เตรียมหาวิธีจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้เสียภาษีที่ไม่ยอมจ่ายภาษีด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อย
โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ทำการตรวจสอบและสืบสวนคดีทั้งหมด 9,590 คดี สามารถเรียกคืนภาษีและเรียกค่าปรับได้มากถึง 857 ล้านเหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท
สำหรับสัดส่วนในการจัดเก็บภาษีของสิงคโปร์ ปีงบประมาณ 2023/2024 แบ่งได้ดังนี้
ภาษีเงินได้นิติบุคคล 36.1% เป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด เก็บได้เพิ่มขึ้น 25.6% เป็น 2.9 หมื่นล้านเหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 7.4 หมื่นล้านบาท
ภาษีสินค้าและบริการ 20.7% มีสัดส่วนใหญ่เป็นอันดับ 3 ของรายได้ทั้งหมด เพิ่มขึ้น 2.6 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ เป็น 1.66 หมื่นล้านเหรียญสิงคโปร์ เนื่องจากผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและอัตราภาษีสินค้าและบริการก็เพิ่มขึ้นด้วย
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 21.8% เพิ่มขึ้น 2 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ เป็น 1.75 หมื่นล้านเหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 4.5 แสนล้านบาท
ภาษีทรัพย์สิน 7.4% อยู่ที่ 5.9 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 1.5 แสนล้านบาท
อากรแสตมป์ 7.2% ลดลงมา 0.1 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ เป็น 5.8 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ สาเหตุที่ลดลงเนื่องจากปริมาณในการทำธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ลดลง
ภาษี หัก ณ ที่จ่าย 2.7%
ภาษีการพนัน 4%
ปีงบประมาณที่แล้ว สำนักงานสรรพากรประมวลผลการเบิกจ่ายให้ธุรกิจกว่า 131,000 แห่ง เป็นจำนวนเงิน 2.3 พันล้านเหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 5.9 หมื่นล้านบาท
โดยเงินช่วยเหลือส่วนใหญ่ใช้เพื่อการดำเนินการโครงการค่าจ้างก้าวหน้ามีมูลค่า 1.67 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ประมาณ 4.3 หมื่นล้านบาท และโครงการจ้างแรงงานสูงอายุ 311 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ประมาณ 8 พันล้านบาท และการกระตุ้นให้มีการจ้างงานเติบโตขึ้นอยู่ที่ 177 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ประมาณ 4.5 พันล้านบาท
หมายเหตุ*
โครงการค่าจ้างก้าวหน้า หรือ Progressive Wage Credit เป็นโครงการเพิ่มค่าแรงให้กับแรงงานเพื่อเพิ่มทักษะและผลิตภาพ (productivity) ในส่วนของพนักงานทำความสะอาด รักษาความปลอดภัย ดูแลภูมิทัศน์ และฝ่ายดูแลลิฟท์และบันไดเลื่อน
ที่มา – CNA, Ministry of Manpower, IRAS
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา