Singapore Airlines หารายได้เพิ่ม: เปลี่ยนแอร์บัสเป็นร้านอาหาร ทำทัวร์ ฟู้ดเดลิเวอรี่

ก่อนหน้านี้ Singapore Airlines ผุดแนวคิด Flights to nowhere ที่เตรียมจะให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องเพื่อนั่งชมทิวทัศน์ราว 3 ชั่วโมง โดยบินไปและกลับสนามบินชางงี (Changi) แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกเพราะมีเสียงค้านจากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ด้วยเหตุผลว่าการบินแบบ Flights to nowhere ทำให้ก๊าซคาร์บอนฯ หนาแน่น และยังไม่สอดคล้องกับนโยบายที่พยายามลดวิกฤตจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ แม้จะมีเสียงผู้ใช้บริการโต้กลับเช่นกันว่ามันไม่ได้สร้างก๊าซคาร์บอนมากมายขนาดนั้น 

ภาพจาก Singapore Airlines

จากนั้น สายการบินสิงคโปร์จึงเปลี่ยนมาใช้แผนใหม่คือ วันที่ 24-25 ตุลาคมนี้ จะใช้เครื่องบินแอร์บัส A380 superjumbo มาทำเป็นร้านอาหารที่ลูกค้าสามารถทานอาหารของสายการบินสิงคโปร์และรับชมภาพยนต์ในเครื่องไปด้วยได้ โดยสนนราคาให้จองอยู่ที่ 50 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 1,157 บาทในชั้นประหยัด และ 300 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 6,942 บาทสำหรับชั้นธุรกิจ และ 600 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 13,885 บาทสำหรับห้องส่วนตัวสุดหรู 

นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญสำหรับลูกค้าที่สวมใส่ชุดประจำชาติ อาทิ ชุด Sarong Kebeya ของสิงคโปร์, ชุดกี่เพ้า, ชุดส่าหรี หรือชุดผ้าบาติก ฯลฯ เหล่านี้จะได้รับของขวัญพิเศษสุดพิเศษจากสายการบินด้วย สามารถเริ่มจองได้วันที่ 12 ตุลาคมนี้ที่ KrisShop.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของสายการบิน และสมาชิก KrisFlyer สามารถใช้ไมล์สะสมเพื่อซื้อได้

ภาพจาก Singapore Airlines

นอกจากทำแอร์บัสให้กลายเป็นห้องอาหารแล้วยังทำทัวร์ศูนย์ฝึกอบรมของสายการบินสิงคโปร์ หรือ SIA Training Centre (Singapore Airlines: SIA) ที่มีทั้งการจำลองฝึกบินเสมือนจริง กิจกรรมลูกเรือสำหรับเด็ก และเวิร์กชอปในการดูแลพนักงานต้อนรับ ทัวร์นี้เริ่มเปิดให้จองวันที่ 1 พฤศจิกายนผ่าน KrisShop.com และจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22, 28-29 พฤศจิกายนนี้ 

ยังไม่หมด ไอเดียที่สามที่สายการบินสิงคโปร์เลือกคือ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านมา แต่สามารถเรียกใช้บริการ SIA@Home ที่ลูกค้าสามารถรับบริการอาหารที่เดลิเวอรีทั้งในระดับเฟิร์สคลาสและบิสสิเนสคลาสส่งตรงถึงบ้านได้เลย มื้ออาหารที่เดลิเวอรี่นี้รวมถึงมื้ออาหารสุดหรูที่เคยเสิร์ฟบนเครื่องบินมาก่อนด้วย แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีบริการให้จองเชฟส่วนตัวไปปรุงอาหารพร้อมเสิร์ฟให้ถึงบ้านด้วย

ที่มา – CNBC, Insider, Singapore Air 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา