ผู้บริหารสวนสยาม มองกาสิโนช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ย้ำประเทศเพื่อนบ้านมีหมด ติงรัฐบาลแก้กฎการสนับสนุนจูงใจต่างชาติเข้าลงทุนสวนน้ำ, สวนสนุก และธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ชี้อุตสาหกรรมสวนน้ำ สวนสนุกในไทยต้อง Hybrid ส่วนภาพรวมการเติบโตปี 2024 กลับมาทรง ๆ หลังปีก่อนคนแห่เที่ยวล้างแค้นโควิด-19
กาสิโน ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย
วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทสยามพาร์ค ซิตี้ ผู้ประกอบกิจการสยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) และประธานสมาคมผู้ประกอบการด้านสวนสนุก และสถานที่ท่องเที่ยวโลก (IAAPA) เล่าให้ฟังว่า กาสิโน ยังเป็นหนึ่งในวิธีดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยได้ดี
“หากทำกาสิโนจริง ๆ ก็ต้องมาทบทวนเรื่องกฎหมาย และการสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทยนั้นมีกาสิโนทั้งหมด และก็มีนักท่องเที่ยวเข้าไปในประเทศพวกเขาเพราะสถานที่ดังกล่าว ดังนั้นหากไทยจะแข่งขันในเรื่องนี้ก็ต้องศึกษาเรื่องนี้เช่นกัน
ต้นเดือน เม.ย. 2024 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีประเทศไทยได้รับทราบรายงานผลพิจารณาการศึกษาเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ติงรัฐบาลไทยแก้กฎสนับสนุนจูงใจทุนต่างชาติ
ในฐานะประธาน IAAPA วุฒิชัย กล่าวว่า กฎหมายของประเทศไทยค่อนข้างมีปัญหาในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมสวนน้ำ สวนสนุก และความบันเทิงต่าง ๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ใช้คน และการลงทุนจำนวนมาก
“ตัวอย่างที่ดีคือ รัฐบาลจีนมีการทำรถไฟฟ้าเชื่อมจนถึงดิสนีย์แลนด์ เตรียมพื้นที่เผื่อการเติบโต แต่ไทยคงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะมีกฎหมายเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์เอกชนอยู่ และถ้าทำจริงก็อาจเว้นช่วง 1 กม. สุดท้ายไว้เพื่อให้เข้ากฎหมาย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องถามว่าคนที่เข้ามาลงทุนจะเลือกแบบไหน”
ขณะเดียวกันถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI พร้อมช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ แต่ด้วยปัญหาเรื่องกฎหมาย เช่น การมองเครื่องเล่นต่าง ๆ เป็นเครื่องจักรที่ต้องระบุแรงม้า แต่ด้วยเครื่องเล่นต่าง ๆ ล้ำสมัยขึ้น โดยเฉพาะเครื่องเล่น Immersive รูปแบบต่าง ๆ ที่เน้นเรื่อง 3 มิติ และการเคลื่อนไหวมากกว่า
ชี้ไทยเหมาะสมลงทุน แม้อากาศจะร้อน
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังเหมาะสมกับการลงทุนสวนสนุก สวนน้ำ และสถานที่ความบันเทิง แม้อากาศจะค่อนข้างร้อนเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ประกอบกับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในการเที่ยวสวนสนุกหันไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์, ฮ่องกง และญี่ปุ่นมากกว่า ผ่านมุมมองเรื่องความคุ้มค่าที่มีมากกว่าการเที่ยวในประเทศ
“ต้องบอกว่าผู้ทำธุรกิจสวนสนุก และสวนน้ำชั้นนำของโลกมีการเข้ามาศึกษาตลาดประเทศไทยเป็นประจำ แต่ก็ต้องย้อนไปที่เรื่องกฎหมาย และการสนับสนุนที่จูงใจ เช่น ดิสนีย์แลนด์ ในฮ่องกง ทางการที่นั่นมีการถมทะเลให้เลย ก็ต้องถามว่ารัฐบาลไทยพร้อมกับเรื่องนี้แค่ไหน”
นับตั้งแต่สถานการณ์โรคโควิด-19 ทุเลา ผู้คนต่างออกไปหาความสนุกมากขึ้น ทำให้สวนสนุกกลุ่มพรีเมียม เช่น ดิสนีย์แลนด์ มีคนใช้งานจำนวนมาก ส่วนสวนสนุกท้องถิ่นในประเทศต่าง ๆ ยังไม่กลับมาดีเหมือนเดิม ที่สำคัญ สวนสนุก สวนน้ำ และอื่น ๆ จะต้อง Hybrid หรือผสมผสานหลากหลายกิจกรรมเพื่อจูงใจลูกค้ามากกว่าเดิม
อุตสาหกรรมนี้ยังเติบโต 2 หลักใน 5 ปีจากนี้
เจคอบ วาฮ์ล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการสมาคม IAAPA เสริมว่า อุตสาหกรรมสวนสนุก สวนน้ำ และความบันเทิงยังมีโอกาสเติบโต 2 หลัก ภายใน 5 ปีจากนี้ ผ่านการที่ทุกคนอยากออกมาใช้ชีวิต และผ่อนคลายจากปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในระดับโลก
สำหรับทิศทางของตลาดนี้ในปี 2024 จะขับเคลื่อนด้วย 4 เรื่องคือ
- Immersive Experience หรือ กิจกรรมที่ช่วยให้ผู้คนหนีจากปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น เทคโนโลยี VR
- Intellectual Property หรือ การนำตัวละครลิขสิทธิ์มายกระดับเครื่องเล่น และกิจกรรมต่าง ๆ
- Seasonal Event หรือ การนำเทศกาลต่าง ๆ มาต่อยอดในการสร้างบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละประเทศ
- Digital Technology หรือ การนำระบบต่าง ๆ มาช่วยอำนวยความสะดวก เช่น ขายตั๋ว และจองคิว
ส่วนกลุ่มประเทศที่มีการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากที่สุดคือ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ Louvre ในกรุงอาบูดาบี รองลงมาเป็นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น จีน กับเวียดนาม ที่มีการลงทุนเพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง
ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ ใช้เวลาวางแผน 15-20 ปี
นอกจากนี้การลงทุนสวนสนุกยักษ์ใหญ่ในแต่ละประเทศต้องใช้ระยะเวลานาน เช่น ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้มีการใช้เวลาวางแผน 15-20 ปี แสดงให้เห็นว่าต้องใช้เวลานาน และแต่ละประเทศที่ต้องการจูงใจการลงทุนต้องพร้อม และจริงจังกับการสนับสนุน
ล่าสุด IAAPA จัดงาน IAAPA Expo Asia 2024 ที่ประเทศไทย โดยนำนวัตกรรมเกี่ยวกับสวนสนุก สวนน้ำ และความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ผ่านผู้ร่วมจัดแสดงกว่า 350 ราย เช่น สไลเดอร์สวนน้ำ, รถไฟเหาะตีลังกา รวมถึงพิพิธภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยี Immersive เข้ามาช่วย
“ตอนนี้คู่แข่งของสวนน้ำ สวนสนุกไม่ใช่แค่คนทำธุรกิจเดียวกัน แต่คือสถานที่อื่น ๆ ที่ดึงครอบครัว หรือเด็ก ๆ ไปใช้เวลาร่วมกัน เช่น ศูนย์การค้า และสถานที่เหล่านั้นเริ่มนำเทคโนโลยีที่มีในสวนสนุกเข้าไปใช้งานเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น Emsphere ที่จัดงานดิสนีย์ในรูปแบบ Immersive เป็นต้น”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา